Friday, February 23, 2007

กล้องผ่าตัดดวงตา-สมองฝีมือไทย

กล้องผ่าตัดดวงตา-สมองฝีมือไทย

วิศวกรชาวไทยร่วมกับต่างชาติพัฒนากล้องผ่าตัดสำหรับตา สมองและหู เผยออกแบบคำนวณความเข้มแสงอัตโนมัติ ลดปริมาณความร้อนจากเลนส์ สร้างความเสียหายให้อวัยวะ พร้อมทั้งติดตั้งเลนส์ 4 ตัวหนุนแพทย์ผ่าตัดเป็นทีม

นายโอม สาวนายน ผู้อำนวยการด้านอุปกรณ์การแพทย์ บริษัท ไลก้า ไมโครซิสเต็ม จำกัด ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และวิศวกรชาวไทยผู้พัฒนากล้องผ่าตัดจุลศัลยกรรมทางตา สมองและหู รวมกับวิศวกรชาวต่างชาติ กล่าวว่า ความพิเศษของกล้องอยู่ที่เลนส์ 4 ตัว ช่วยให้แพทย์สามารถร่วมผ่าตัดได้หลายคนพร้อมกัน ทั้งยังออกแบบให้ลดปริมาณแสงที่ส่องไปยังวัตถุ จึงลดอันตรายที่อาจเกิดกับอวัยวะที่กำลังผ่าตัด หากได้รับความร้อนจากแสงในปริมาณมากและต่อเนื่อง

"ทีมวิศวกรได้สำรวจความคิดเห็นของศัลยแพทย์ ที่ใช้กล้องจุลทรรศน์ในการผ่าตัดพบว่า กล้องที่ใช้อยู่ในปัจจุบันยังมีข้อจำกัด เช่น น้ำหนักมาก ทำให้ใช้งานได้ไม่คล่องตัว อีกทั้งก่อนการใช้งานจะต้องใช้เวลาปรับระบบนานพอสมควร ดังนั้น ทีมวิศวกรจึงได้ออกแบบกล้องผ่าตัดขึ้นใหม่ ให้มีน้ำหนักเบา สามารถเคลื่อนที่ปรับทิศทางและมุมมองได้สะดวกขณะผ่าตัด รวมถึงติดตั้งระบบอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ช่วยควบคุมการทำงาน" ผู้พัฒนากล้อง กล่าว

กล้องผ่าตัดที่พัฒนาขึ้นมีหลายเวอร์ชั่น รองรับการใช้งานที่ต่างกัน เช่น กล้องผ่าตัดตา กล้องผ่าตัดสมอง ซึ่งมีความจำเพาะ โดยตัวกล้องสามารถหมุนได้รอบตัวแบบ 3 มิติ มีการคำนวณปริมาณแสงอัตโนมัติ เพื่อป้องกันอันตรายที่เกิดขึ้นกับอวัยวะของผู้ป่วย ในปริมาณที่ได้รับแสงมาก

กล้องดังกล่าวถูกนำไปใช้งานอย่างแพร่หลายในประเทศอเมริกา ยุโรป รวมถึงโรงพยาบาลขนาดใหญ่ในประเทศไทย เช่น โรงพยาบาลศิริราช สำหรับกล้องผ่าตัดสมองและตา รวมถึงโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ที่ใช้กล้องผ่าตัดสมองอยู่ในปัจจุบัน
น.พ.เอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์ นายกแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยใช้งานกล้องจุลศัลยกรรมอย่างแพร่หลายในโรงพยาบาลทั่วประเทศ ขณะที่แพทย์ยังขาดความรู้เฉพาะทางในเรื่องงานกล้องจุลศัลยกรรม ทำให้ใช้งานเครื่องมือราคาแพงไม่เต็มประสิทธิภาพ

ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

No comments: