Friday, February 23, 2007

สเต็มเซลล์รักษา "เสียงแหบ"


แพทย์ไทยใช้สเต็มเซลล์รักษา "เสียงแหบ"สำเร็จครั้งแรกของโลก

เลขาฯ วช. เผย นักวิจัยไทยสามารถพัฒนา "สเต็มเซลล์" หรือเซลล์ต้นกำหนดเพื่อรักษาโรคเสียงแหบได้สำเร็จ ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ครั้งแรกของโลก

ศ.ดร.อานนท์ บุณยะรัตเวช เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ให้สัมภาษณ์ถึงยุทธศาสตร์ชาติด้านการวิจัยสเต็มเซลล์ขณะร่วมงานประชุมเทคโนโลยีใหม่เกี่ยวกับสเต็มเซลล์ ที่อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ว่า ต้องมีการวิจัยขั้นพื้นฐาน ค้นคว้าวิจัยระดับโมเลกุล ระดับเซลล์ เพื่อพัฒนาสู่ระดับที่ 2 คือ การพัฒนาเทคโนโลยีด้านสเต็มเซลล์ นำไปสู่ขั้นที่ 3 การใช้ประโยชน์ นำไปสู่การวิจัยทางคลินิก เพื่อรักษาบำบัดโรคต่างๆ ซึ่งทาง วช.ได้เริ่มโครงการวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน มหาวิทยาลัยมหิดล และหลายหน่วยงาน ตั้งแต่ปี 2543 จนถึงปัจจุบัน มีผลการวิจัยที่เป็นฝีมือของคนไทยประสบผลสำเร็จแล้วหลายโครงการ เช่น การรักษาภาวะเสียงแหบด้วยสเต็มเซลล์ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี และการรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจด้วยสเต็มเซลล์ที่สถาบันโรคทรวงอก

"เราผลักดันการวิจัยการรักษาโรคหัวใจ โรคไต ระบบประสาท สมอง ทั้งพาร์กินสัน หลอดเลือดหัวใจ พยายามให้มีการวิจัยระดับคลินิก มีความร่วมมือของนักวิจัยขั้นที่ 2 และขั้นที่ 3 เพื่อให้เกิดผลดีกับคนไทย คำนึงถึงจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ ให้เกิดผลดี มีความปลอดภัย ขั้นที่ 3 ระดับคลินิก เราทำได้ผลดี เร็วๆ นี้จะมีข่าวดีออกมาอีก การรักษาเสียงแหบถือเป็นนวัตกรรมใหม่ของโลก" ศ.ดร.อานนท์ กล่าว

ศ.ดร.อานนท์ กล่าวว่า สเต็มเซลล์ที่นำมารักษาผู้ป่วยเสียงแหบนั้น แพทย์จากโรงพยาบาลรามาธิบดีนำเลือดของผู้ป่วยมาพัฒนาเป็นสเต็มเซลล์ จากนั้นฉีดเข้าไปในร่างกายของผู้ป่วยที่มีอาชีพครู เส้นเสียงที่แหบเครือสามารถทำงานได้ดี พูดสอนนักเรียนได้เหมือนเดิม มีผู้ป่วยเสียงแหบที่รักษาด้วยสเต็มเซลล์แล้ว 6 ราย ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา คณะผู้วิจัยอยู่ระหว่างติดตามผลอย่างใกล้ชิด

ส่วนสเต็มเซลล์รักษาโรคหัวใจ ทำโดยการนำเลือดของผู้ป่วยมาพัฒนาเป็นสเต็มเซลล์ หลังจากนั้นฉีดกลับเข้าร่างกายผู้ป่วย วิจัยในผู้ป่วยรายแรกเมื่อเดือนธันวาคม 2548 จนถึงปัจจุบัน มีคนไข้ในโครงการวิจัย 5 ราย ทุกรายปลอดภัย แพทย์และนักวิจัยติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ส่วนอนาคตกำลังวิจัยโรคข้อเสื่อม โรคหลอดเลือดหัวใจ สำหรับสเต็มเซลล์ได้จากส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ได้แก่ เลือด ไขกระดูก ผิวหนัง ไขมัน เป็นต้น

ที่มา: http://www.matichon.co.th
Link: http://www.matichon.co.th/khaosod/khaosod_detail.php?s_tag=03tec02230250&day=2007/02/23§ionid=0326

2 comments:

miaow said...

คนไทยเก่งจัง ^^
ส่วนตัวเวลาเราเสียงแหบ จะใช้สเปรย์พ่นเอาน่ะ
ชื่อโพรพอลิส สเปรย์ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากผึ้ง
ใช้พ่นแก้เสียงแหบดีนะ ใช้ง่ายพกไปนอกบ้านสะดวกดี

ปาท่องโก๋ said...

น่าสนใจดีนะคับโพรพอลิสสเปรย์ เดี๋ยวลองใช้ดูบ้างคับ