Friday, February 23, 2007

นิวตัน (ตอน 2)

นิวตัน แอปเปิ้ล และกฎแห่งแรงโน้มถ่วง (ตอน 2)

เมื่อวานเราได้รู้จักชีวิตของเซอร์ไอแซก นิวตัน ฉบับย่อก่อนที่เขาจะบรรลุธรรม หรืออย่างที่พระนิกายเซนเรียกว่า "ซาโตริ" เมื่อเห็นลูกแอปเปิ้ลหล่นจากต้นลงสู่พื้นจนเข้าใจลึกซึ้งถึง "กฎแห่งแรงโน้มถ่วง" ซึ่งเป็นกฎเกณฑ์ธรรมชาติ

การค้นพบกฎแรงโน้มถ่วงจากการสังเกตเห็นลูกแอปเปิ้ลหล่นเป็นเกร็ดที่นิยมเล่ากันอยู่เสมอ เรื่องนี้มีแหล่งข่าวใกล้ชิดตัวนิวตันยืนยันว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง บุคคลที่ยืนยันเรื่องนี้ได้แก่ มาร์ติน โฟลเคส ประธานราชสมาคม วอลแตร์ นักเขียนเชิงปรัชญาชาวฝรั่งเศสที่ได้ยินเรื่องนี้จากแคธารีน บาร์ตัน ลูกพี่ลูกน้องของนิวตัน จอหน์ คอนดูต เพื่อนของนิวตันซึ่งต่อมาสมรสกับลูกพี่ลูกน้องคนดังกล่าว

แม้ว่าบันทึกของวอลแตร์จะได้รับความนิยมจากสาธารณชนมาก แต่บันทึกที่น่าเชื่อกว่ากลับเป็นงานเขียนเรื่อง บันทึกความทรงจำชีวิตของนิวตัน ประพันธ์โดย ดร.วิลเลียม สตูเคอรี ซึ่งเป็นหมอและเพื่อนสนิทของนิวตัน เขาเล่าว่าวันหนึ่งได้ไปหานิวตัน ซึ่งอายุมากแล้วตอนนั้น และได้บรรยายเรื่องที่พูดคุยกันวันนั้นว่า...

"หลังจากทานอาหารค่ำแล้ว เราออกไปเดินเล่นในสวน และดื่มชาใต้ต้นแอปเปิ้ลตามลำพัง ระหว่างที่คุยกันอยู่นั้นเขาเล่าให้ผมฟังว่า บรรยากาศช่างคล้ายกับตอนที่ความคิดเรื่องแรงโน้มถ่วงผุดขึ้นมาในหัว เมื่อเขาเห็นลูกแอปเปิ้ลหล่น เขาคิดว่าทำไมลูกแอปเปิ้ลถึงตกลงพื้นเสมอ ทำไมไม่หล่นไปด้านข้างหรือลอยขึ้นข้างบน แต่กลับตกเข้าหาใจกลางโลก

มันช่างน่าประหลาดจริงๆ ที่เป็นเช่นนี้ต้องเป็นเพราะสสารมีพลังดึงดูดอยู่ และพลังดึงดูดของโลกต้องอยู่ที่ใจกลางพิภพ ไม่ได้อยู่ด้านข้างของโลก ฉะนั้นลูกแอปเปิ้ลถึงหล่นเข้าหาใจกลางโลกเสมอ แต่ถ้าสสารต่างดึงดูดกัน แสดงว่าต้องเกี่ยวข้องกับของขนาดสสาร แอปเปิ้ลดึงดูดโลก และโลกก็ดึงดูดแอปเปิ้ลเช่นกัน และนั่นคือพลังที่เราเรียกว่าแรงโน้มถ่วง (กราวิทัต) ซึ่งแผ่พลังไปทั่วจักรวาล..."

หลักการของนิวตันถูกนำไปใช้อธิบายการเคลื่อนที่ของโลกและเทหะวัตถุ คำนวณระยะห่างของดวงดาว ค่าความสว่าง รอบวงโคจร และอื่นๆ อีกมากมาย จะเรียกว่าเพราะแอปเปิ้ลลูกเดียวแท้ๆ ก็ว่าได้

คนส่วนใหญ่มักรู้จักนิวตันในฐานะนักคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ แต่ชีวิตของบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของโลกผู้นี้ยังมีแง่มุมอื่นด้วย นิวตันเคยเขียนบทความศาสนาเกี่ยวกับการตีความคัมภีร์ไบเบิล เล่ากันว่านิวตันอาจได้รับแนวคิดเรื่อง "ทวินิยม" มาจากเฮนรี มัวร์ นักปรัชญาชาวอังกฤษที่อยู่ร่วมสมัยกัน บทความดังกล่าวเขาได้เขียนวิพากษ์เกี่ยวกับการมีอยู่ของ "ทรินิตี" (พระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณ) ของศาสนาคริสต์ ส่งไปให้ จอห์น ลอค นักปรัชญาและการเมืองชาวอังกฤษเช่นกัน แต่ข้อเขียนดังกล่าวไม่ได้รับตีพิมพ์เผยแพร่

ในปี 2232-2233 และ 2244 เขาได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกรัฐสภาอังกฤษ แต่ไม่ค่อยแสดงความคิดเห็นทางการเมืองมากนัก มีอยู่ครั้งเดียวที่บันทึกว่าเขาได้แสดงความเห็นในสภาเกี่ยวกับลมเย็นที่พัดเข้ามาในห้องประชุม และเสนอให้ปิดหน้าต่าง

ต่อมานิวตันได้ย้ายมาอยู่ที่กรุงลอนดอนและได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการกองกษาปณ์ในปี 2239 เขาได้เปลี่ยนการอ้างอิงค่าเงินปอนด์สเตอร์ลิงจากมาตรฐานเงินมาเป็นมาตรฐานทองคำ นับเป็นการปฏิรูปการเงินที่สำคัญในยุคนั้น และได้รับแต่งตั้งให้เป็นอัศวินจากพระราชินีแอนจากการทำงานที่กองกษาปณ์ ไม่ใช่จากผลงานด้านวิทยาศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของเขา

นิวตันถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2270 ร่างของเขาถูกนำไปฝังอยู่ในวิหารเวสต์มินเตอร์ แพทย์พบว่าในศพของนิวตันมีสารปรอทอยู่จำนวนมาก ซึ่งอาจได้รับมาจากการทดลองแปรธาตุ สารพิษจากปรอทนี่เองที่อธิบายได้ว่าทำไมนิวตันถึงมีรูปร่างผิดปกติในช่วงปัจฉิมวัย

ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

No comments: