Wednesday, January 31, 2007

เหยื่อภัยธรรมชาติ

ยูเอ็นระบุปีที่แล้ว "เอเชีย" เป็นเหยื่อภัยธรรมชาติมากที่สุด

เอเอฟพี/เอเจนซี - รายงานของศูนย์วิจัยในเบลเยียมจัดทำร่วมกับหน่วยงานสหประชาชาติ ชี้ ทวีปเอเชียมีผู้เสียชีวิตจากภัยธรรมชาติมากที่สุดในโลกเมื่อปีที่แล้ว เพราะเจอทั้งแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่อินโดนีเซียและฤทธิ์ไต้ฝุ่นทุเรียน แถมรัฐบาลก็ไม่ลงทุนวางมาตรการป้องกันหรือบรรเทาทุกข์ ทั้งๆที่อยู่ในช่วงเศรษฐกิจเฟื่องฟู


รายงานที่จัดทำโดยศูนย์วิจัยการระบาดวิทยาของภัยพิบัติ หรือ "ซีอาร์อีดี" (Centre for Research on the Epidemiology of Disasters : CRED) แห่งมหาวิทยาลัยลูแวง (University of Louvain ) ในเบลเยียม ร่วมกับสำนักงานยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศเพื่อการลดภัยพิบัติ แห่งสหประชาชาติ หรือ "ไอเอสดีอาร์" (International Strategy for Disaster Reduction : ISDR) ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า เหตุภัยธรรมชาติเกือบ 400 เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นเมื่อปีแล้ว ได้คร่าชีวิตประชาชนไป 21,342 คน

ตัวแทนของซีอาร์อีดี แถลงว่า ทวีปเอเชีย ยังคงเป็นทวีปที่ได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติรุนแรงที่สุด โดยจำนวนผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติเมื่อปี 2549 นั้น เกือบสามในสี่ (74.2%) เป็นชาวเอเชีย ส่วนทวีปยุโรปมีเหยื่อภัยพิบัติมากเป็นอันดับสอง รองจากเอเชีย โดย 15.3%ของจำนวนเหยื่อภัยพิบัติ เป็นชาวยุโรป ตามมาด้วยทวีปแอฟริกา 7.5% ทวีปอเมริกา 2.9% และแถบโอเชียเนีย 0.1%

เดอบาราติ กูฮา-ซาปีร์ (Debarati Guha-Sapir) ผู้อำนวยการของซีอาร์อีดี แถลงว่า ถือเป็นเรื่องเลวร้ายที่เอเชียยังคงเป็นพื้นที่ประสบปัญหาหนักสุด เพราะสภาพเศรษฐกิจในเอเชียกำลังเฟื่องฟู แต่รัฐบาลกลับไม่ลงทุนวางมาตรการป้องกันและเตรียมการรับมือกับภัยธรรมชาติ

ทั้งนี้ รายงานของซีอาร์อีดีและไอเอสดีอาร์ระบุว่า แผ่นดินไหวบนเกาะชวาของอินโดนีเซีย เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ซึ่งคร่าชีวิตประชาชนไป 5,778 คน ถือเป็นภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในพื้นที่เดียวครั้งใหญ่ที่สุดในปี 2549

ภัยพิบัติครั้งใหญ่รองลงมาคือ วาตภัยจากไต้ฝุ่นทุเรียนที่พัดถล่มฟิลิปปินส์เมื่อเดือนธันวาคมคร่าชีวิตผู้คนไป 1,399 คน และแผ่นดินถล่มที่ฟิลิปปินส์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปีที่แล้ว กลืนร่างผู้เสียชีวิตไป 1,112 ศพ ตามมาด้วยเหตุคลื่นความร้อนเมื่อเดือนกรกฎาคมปีเดียวกัน ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1,000 คน ในเนเธอร์แลนด์ และ 940 คน ในเบลเยียม

กูฮา-ซาปีร์ กล่าวว่า การที่ประเทศพัฒนาแล้วในยุโรปติดอันดับเป็นพื้นที่ประสบภัยธรรมชาติอย่างหนัก ถือเป็นเรื่องน่าสลดใจ ทั้งนี้ ผู้อำนวยการซีอาร์อีดีกล่าวว่า ประเทศในยุโรปโดยทั่วไปก็ไม่ได้วางแผนรับมือหรือลดผลกระทบจากเหตุภัยธรรมชาติ อย่างเพียงพอ

ทว่า บังกลาเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก กลับมีความคืบหน้าในการบรรเทาภัยพิบัติ โดยกูฮา-ซาปีร์ กล่าวว่า เมื่อปี 2516 มีประชาชนราว 15,000 คนเสียชีวิตจากอุทกภัยในบังกลาเทศ แต่หลังจากนั้น รัฐบาลได้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่ต่ำและสร้างที่หลบภัยจากพายุไซโคลน มาตรการเหล่านี้ทำให้เหยื่อภัยธรรมชาติลดลง

ที่มา: http://www.manager.co.th
Link: http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9500000012197

No comments: