Thursday, June 21, 2007

ก้าวสู่ยุคเว็บ 3.0

หากโทรศัพท์มือถือที่เราใช้อยู่เป็นประจำอยู่ในยุค 2.5-3 จี แล้วคุณรู้ไหมว่าเว็บไซต์ที่เราใช้บริการค้นหาข้อมูล อีเมล ดาวน์โหลดโปรแกรม ที่เราใช้อยู่ทุกวันเป็นประจำอยู่ในยุคของเว็บ 2.0 ซึ่งเป็นมาตรฐานของเว็บไซต์ใหม่แทบทุกเว็บในโลกมาได้ประมาณ 2-3 ปี และเชื่อไหมว่าตอนนี้เรากำลังเข้าสู่ยุคของเว็บ 3.0 เว็บไซต์รูปแบบใหม่ที่เน้นคลังข้อมูล รวมทุกสิ่งที่ทุกคนอยากรู้ ให้น่าใช้ยิ่งๆ ขึ้นไปอีกระดับ

ผมเชื่ออยู่อย่างว่า หลังจบย่อหน้าแรกหลายคนคงทำหน้านิ่วคิ้วขมวด กับคำถามคาใจว่านี่เรากำลังจะเข้าเว็บ 3.0 แล้วหรอ เพิ่งเป็นเว็บ 2.0 มาหมาดๆ เองนะบางคนคงถามว่า เว็บ 2.0 คืออะไรหว่า มีมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่เห็นรู้เรื่องเลย ในรายระดับสาหัสสุดๆ ร้อยวันพันปีจะใช้อินเตอร์เน็ตสักครั้ง คงร้องว่า โอ้...พระเจ้ายอด มันจอร์จมาก... ว่าแต่ว่าเจ้าเว็บ 1.0 หน้าตาเป็นยังไง แล้วมาเป็น 3.0 ได้ยังไง หากท่านมีอาการดังกล่าวให้เตรียมยาดมไว้ให้พร้อม เพราะที่จะเล่าต่ออาจทำให้ยิ่งปวดขมับกว่าเดิม

เมื่อพูดถึงเว็บ 1.0 ต้องย้อนกลับไปราวๆ ปี 1992-1999 หลังจากอินเตอร์เน็ตเริ่มแพร่หลายไปทั่ว นักเล่นอินเตอร์เน็ตในยุคนั้นเริ่มใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่านโปรแกรมที่เรียกว่า เว็บ บราวเซอร์ อย่าง Netscape, IE Opera ผ่านรูปแบบเว็บไซต์ที่ง่ายต่อการเขียนอย่างภาษา HTML (Hypertext Language) ซึ่งเป็นภาษาโปรแกรมพื้นฐานง่ายๆ โดยใช้โปรแกรม โน้ตแพด ที่มากับวินโดว์ส หรือแม้กระทั้งโปรแกรมเวิร์ดของออฟฟิศก็สามารถเปลี่ยนเป็นนามสกุล html ก็สามารถนำขึ้นเว็บได้แล้ว

หน้าตาเว็บในยุคเว็บ 1.0 นำเสนอเพียงข้อมูลที่ผู้สร้างต้องการจะนำเสนอ ใครอยากรู้อะไรก็คลิกเข้าดู มีลูกเล่นเล็กๆ อย่างภาพเคลื่อนไหวบนเว็บ เล่นเกมผ่านหน้าเว็บ ดาวน์โหลดเพลง โปรแกรม เกม และใช้งานอีเมล การค้นหาเว็บไซต์ใหม่ๆ ของผู้ใช้อาศัยการกดลิงก์ไปยังเว็บอื่นๆ ตามที่มีคนสร้างมีการแลกลิงก์กันระหว่างเว็บ เนื่องจากระบบการค้นหาข้อมูลบนเว็บไซต์ยังไม่ทันสมัยเท่าปัจจุบัน ไม่มีการแสดงความคิดเห็นบนเว็บไซต์มากนัก ทำให้โปรแกรมแชตอย่าง เพิร์ช และ ไอซีคิว เฟื่องฟูเป็นอย่างมาก

จนกระทั่งปี 1999-2004 ซึ่งเราอาจจะเรียกว่าเป็นยุคเว็บ 1.5 ก็ว่าได้ รูปแบบของเว็บไซต์ไดพัฒนามากขึ้น มีการสร้างระบบกระทู้ให้ผู้เข้าใช้บริการได้แสดงความคิดเห็นของตัวเองขึ้นมา มีบริการสร้างฟรีโฮมเพจส่วนตัว เช่น Lycos และ Geocity เป็นต้น (คล้ายกับเว็บบล็อก แต่ผู้ใช้ต้องเขียนโปรแกรมและออกแบบเองทั้งหมด) เว็บไซต์สามารถนำข้อมูลภาพเคลื่อนไหวและเสียงสดๆ ขึ้นบนหน้าเว็บได้

เป็นผลพลอยได้ระหว่างการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และผลจากการนำโปรแกรมใหม่ๆ เข้ามาเว็บไซต์อย่าง Java, API, Dreamwaver และอีกมากมาย ซึ่งความเร็วและโปรแกรมเหล่านี้ทำให้หน้าตาของเว็บและการใช้งานเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง

จนกระทั่งหลังปี 2004 จนถึงปัจจุบัน นับเป็นช่วงการเปลี่ยนแปลงจากเว็บ 1.0 เข้าสู่เว็บ 2.0 อย่างแท้จริง บางคนอาจไม่ได้สังเกตถึงการเปลี่ยนแปลง นั่นก็เพราะว่าบรรดาเว็บไซต์จะเปลี่ยนแปลงค่อยเป็นค่อยไปมาก่อนปี 2004 โดยเว็บที่สังเกตได้ง่ายที่สุดก็คือ hotmail.com และวิกิพีเดีย และในประเทศก็คือ Mthai.com

สำหรับฮอทเมล เปลี่ยนแปลงโดยสร้างรูปแบบหน้าจอให้ง่ายต่อการใช้งาน และสนับสนุนการใช้งานผ่านระบบ IM (Instant Message) ให้แพร่หลาย นอกจากนี้ฮอทเมลยังเป็นเว็บแรกๆ ของโลกที่เปลี่ยนมาสู่ยุค 2.0 ก่อนใคร ในขณะที่วิกิพีเดียกลายเป็นคลังข้อมูลดิจิตอลที่ใหญ่ที่สุดในโลกไปแล้ว ส่วนเอ็มไทยนั้นพัฒนาจากเว็บรวมกระทู้ธรรมดาๆ กลายเป็นชุมชนออนไลน์ขนาดใหญ่ ที่มีบริการหลากหลายทั้งภาพเคลื่อนไหวและเสียงเพลง รวมทั้งรวบรวมข่าวสารที่น่าสนใจแทบทุกอย่างในประเทศไทย

เว็บ 2.0 จะมีลักษณะที่เรียกว่าเป็นชุมชน คือมีการพูดคุยตอบโต้ความคิดเห็นซึ่งกันและกันมากขึ้น การโต้ตอบหรือการติดต่อสื่อสาร 2 ทางนี้มีความหมายครอบคลุมไปถึงการติดต่อซื้อขายผ่านเว็บไซต์อย่างอีเบย์ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังเผยแพร่ข้อมูลไม่จำเป็น ต้องเป็นเจ้าของเว็บ อย่าง วิกีพีเดีย ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้เขียนบทความที่มีสาระเข้าไปอย่างอิสระและมีการตรวจสอบกันเอง รวมทั้งการเกิดเว็บบล็อกก็เป็นแหล่งข้อมูลส่วนตัวของคนใช้อินเตอร์เน็ตที่เปิดกว้างมากขึ้น

เว็บ 2.0 มีความสามารถในการแชร์ไฟล์และข้อมูลร่วมกันมากขึ้น จุดนี้ไม่ได้หมายความถึง Bittorent ซึ่งเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ แต่เป้นการอัพข้อมูลขึ้นบนเว็บและให้ใครก็ได้สามารถเข้ามาโหลดข้อมูลนี้ไปใช้ ทั้งยังเน้นความสวยงาม ลูกเล่นแพรวพราว สบายตาน่าใช้

ขณะที่เว็บ 3.0 จะเป็นก้าวต่อไปของเว็บไซต์ที่พัฒนาจากเดิมมากมาย อย่างแรกที่บรรดานักออกแบบเว้บไซต์รวมทั้งผู้สร้างโปรแกรมเขียนเว็บได้พัฒนากันไว้คือเรื่องความฉลาดของเว็บโปรแกรมจะมีการโต้ตอบกับผู้ใช้หรือบันทึกสิ่งที่เขาชอบค้นหามากที่สุด จากนั้นมันจะช่วยค้นหาคำที่ต้องการรวมทั้งข้อมูลใกล้เคียงที่สามารถนำไปใช้ได้

มีระบบฐานข้อมูลอย่างละเอียดเช่นในข่าวที่เราค้นหาอาจจะมีชื่อคนที่ไม่คุ้นหู เว็บไซต์จะทำแถบลิงก์ชื่อของคนคนนั้นเพื่อนำไปสู่ข้อมูลบุคคลหรือข่าวที่เคยเกิดขึ้น เป็นต้น นอกจากความฉลาดและฐานข้อมูลขนาดมหึมาแล้ว กราฟิกของเว็บไซต์จะเป็นไปในรูปแบบ 3 มิติ หน้าตาเว็บไซต์จะไม่ได้ถูกจำกัดแค่การแสดงผลเหมือนหน้ากระดาษเท่านั้น แต่จะกลายเป็นเว็บที่มีมิติให้ผู้เข้าชมรู้สึกเหมือนเดินเข้าไปในสถานที่แห่งหนึ่งแล้วคลิกเลือกดูสิ่งสิ่งที่ต้องการได้ คล้ายๆ กับโปรแกรมเกม Second life ที่กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในเวลานี้ โดยเว็บที่เริ่มพัฒนาเข้าข่าย 3.0 แต่ยังไม่เป็นโดยสมบูรณ์ก็มีเช่น google.com, live.com เป็นต้น

ปัจจุบันในต่างประเทศก็เริ่มมีเว็บไซต์แนวนี้กันมากขึ้นและเป็นการส่งสัญญาณแก่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตแล้วว่า คอมพิวเตอร์สเปกต่ำๆ ที่เชื่อกันว่าใช้เล่นอินเตอร์เน็ต พิมพ์งาน รวมทั้งความเร็วในการเชื่อมต่อที่ 56 Kbbp คงไม่เพียงพอต่อการทำงานในอนาคต

ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ Today

1 comment:

Anonymous said...

情趣用品,情趣用品,情趣用品,情趣用品,情趣用品,情趣用品,情趣,情趣,情趣,情趣,情趣,情趣,情趣用品,情趣用品,情趣,情趣,A片,A片,情色,A片,A片,情色,A片,A片,情趣用品,A片,情趣用品,A片,情趣用品,a片,情趣用品,A片,A片

A片,A片,AV女優,色情,成人,做愛,情色,AIO,視訊聊天室,SEX,聊天室,自拍,AV,情色,成人,情色,aio,sex,成人,情色

免費A片,美女視訊,情色交友,免費AV,色情網站,辣妹視訊,美女交友,色情影片,成人影片,成人網站,H漫,18成人,成人圖片,成人漫畫,情色網,日本A片,免費A片下載,性愛

情色文學,色情A片,A片下載,色情遊戲,色情影片,色情聊天室,情色電影,免費視訊,免費視訊聊天,免費視訊聊天室,一葉情貼圖片區,情色視訊,免費成人影片,視訊交友,視訊聊天,言情小說,愛情小說,AV片,A漫,AVDVD,情色論壇,視訊美女,AV成人網,成人交友,成人電影,成人貼圖,成人小說,成人文章,成人圖片區,成人遊戲,愛情公寓,情色貼圖,色情小說,情色小說,成人論壇


情色文學,色情小說,情色小說,色情,寄情築園小遊戲,情色電影,aio,av女優,AV,免費A片,日本a片,美女視訊,辣妹視訊,聊天室,美女交友,成人光碟

A片,A片,A片下載,做愛,成人電影,.18成人,日本A片,情色小說,情色電影,成人影城,自拍,情色論壇,成人論壇,情色貼圖,情色,免費A片,成人,成人網站,成人圖片,AV女優,成人光碟,色情,色情影片,免費A片下載,SEX,AV,色情網站,本土自拍,性愛,成人影片,情色文學,成人文章,成人圖片區,成人貼圖