Wednesday, June 20, 2007

ผวาปัญหาโลกร้อนหลังจีนปล่อยก๊าซเรือนกระจกแซงสหรัฐฯ

ผวาปัญหาโลกร้อนหลังจีนกลายเป็นประเทศปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดในโลก แซงหน้าแชมป์เก่าหลายสมัยอย่างสหรัฐ เร็วกว่าที่หลายฝ่ายคาดไว้

(20มิย.) สำนักงานประเมินด้านสิ่งแวดล้อมของเนเธอร์แลนด์ เปิดเผยตัวเลขล่าสุดเมื่อวานนี้ พบว่าเมื่อปีที่แล้ว จีนปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากถึง 6,200 ล้านตัน เทียบกับ 5,800 ล้านตันที่สหรัฐปล่อย กล่าวคือปริมาณการปล่อยก๊าซของจีนเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับ 1.4% ของสหรัฐทั้งๆที่เมื่อปี 2548 จีนปล่อยก๊าซที่ว่านี้น้อยกว่าสหรัฐถึง 2% ซึ่งก็ถือเป็นครั้งแรกที่จีนปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แซงหน้าสหรัฐ ซึ่งครองอันดับหนึ่งมานานติดต่อกันหลายปี

แต่ตัวเลขล่าสุดนี้คำนวณเฉพาะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากการผลิตซีเมนต์และการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงจากซากพืชซากสัตว์โดยเฉพาะจากถ่านหินเท่านั้น โดยยังไม่ได้รวมส่วนที่มีที่มาอื่นทั้งยังไม่รวบถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกชนิดอื่น อย่างเช่น ก๊าซมีเธนจากการทำการเกษตร และไนตรัสออกไซด์จากอุตสาหกรรม
แม้จีนจะแซงหน้าสหรัฐเป็นครั้งแรก แต่เมื่อเทียบปริมาณการปล่อยก๊าซของประชากรต่อหัวแล้วอัตราการสร้างมลภาวะของคนจีนยังต่ำกว่าคนสหรัฐ 5-6 เท่า

การที่จีนปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แซงหน้าสหรัฐ ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย หากแต่เร็วกว่าที่คิด เพราะหลายคนคิดว่าน่าจะเกิดขึ้นในปีหน้า และเรื่องนี้ก็ทำให้หลายฝ่ายหวั่นวิตกมากขึ้น ต่อปัญหาโลกร้อนที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์ และอาจเพิ่มแรงกดดันให้ต้องเร่งผลักดันข้อตกลงเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลกที่จะมาใช้แทนพิธีสารเกียวโตซึ่งกำลังจะหมดอายุในปี 2555

ที่ผ่านมา พิธีสารเกียวโตไม่มีความคืบหน้ามากนักเนื่องจากสหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดในโลกติดต่อกันหลายปี ไม่ยอมให้สัตยาบันพิธีสารเกียวโตเนื่องจากพิธีสารฉบับนี้ไม่ได้เรียกร้องให้จีนและประเทศกำลังพัฒนาที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว อย่างอินเดียและบราซิลต้องตัดลดการปล่อยก๊าซ

เมื่อต้นเดือน รัฐบาลจีนได้ประกาศวาระแห่งชาติเกี่ยวกับการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน เป็นครั้งแรกโดยตั้งเป้าลดการใช้พลังงานลง 20% ภายในปี 2553 และเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานที่นำกลับมาใช้ใหม่ แต่ไม่กำหนดตัวเลขเป้าหมายการตัดลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยตรง

ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

No comments: