Saturday, June 9, 2007

"แอตแลนติส" พาลูกเรือชายล้วนต่อเติมสถานีอวกาศ


สเปซด็อทคอม/เอเยนซี-นาซาส่ง "แอตแลนติส" ทะยานฟ้าอย่างสวยงาม หลังจากโชคไม่ดีโดนพายุลูกเห็บถล่มฐานปล่อยจรวดเมื่อ 3 เดือนก่อน จนทำให้ยานเสียหายและปฎิบัติการส่งกระสวยอวกาศต้องล่าช้า โดยมีภารกิจนำชิ้นส่วนและแผงโซลาร์เซลล์ขึ้นไปต่อเติมให้สถานีอวกาศนานาชาติ พร้อมทั้งผลัดเปลี่ยนนักบินประจำการบนอวกาศ

ยาน "แอตแลนติส" (Atlantis) ขององค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐ (นาซา) นำนักบินอวกาศ 7 คนทะยานฟ้าจากฐานปล่อยจรวดของศูนย์อวกาศเคนเนดี (Kennedy Space Center) มุ่งหน้าสู่สถานีอวกาศนานาชาติ (ไอเอสเอส) อย่างงดงามในวันที่ 9 มิ.ย.นี้ เมื่อเวลา 06.38.น. ตามเวลาประเทศไทย ภายหลังจากที่ยานได้รับการซ่อมแซมเนื่องจากความเสียหายจากพายุลูกเห็บที่เข้าถล่มฐานปล่อยจรวดเมื่อ 3 เดือนก่อนจนต้องเลื่อนกำหนดปล่อยยานออกมา

"โอเค ซีเจ มันต้องใช้เวลาสักระยะกว่าจะพาเรามาจุดนี้ แต่ตอนนี้ยานก็อยู่ในที่ทางที่ดีมาก เรามีวันที่สภาพอากาศดีให้กับคุณนะ โชคดีและขอให้ประสบความสำเร็จ" ไมค์ ไลน์แบช (Mike Leinbach) ผู้อำนวยการปฏิบัติการปล่อยยานของนาซาส่งคำอวยพรถึงริค ซีเจ สเติร์คโกว (Rick CJ Sturckow) ผู้บังคับการบินยานแอตแลนติสก่อนยานทะยานฟ้า

"เจอกันอีก 2 อาทิตย์" สเติร์คโกวตอบกลับภายหลังจากขอบคุณเจ้าหน้าที่ของนาซาคนอื่นๆ ที่เตรียมความพร้อมในการส่งยานแอตแลนติส โดยภายในภารกิจอวกาศ 11 วันนี้ นักบินอวกาศประจำเที่ยวบินแอตแลนติสได้นำชิ้นส่วนใหม่พร้อมแผงโซลาร์เซลล์คู่หนึ่งสำหรับไอเอสเอสขึ้นไปด้วย พร้อมทั้งการเดินอวกาศ 3 ครั้งเป็นเวลา 6 ชั่วโมงครึ่ง โดยกำหนดไว้ในวันที่ 4, 6 และวันที่ 8 ของปฏิบัติการ

ทั้งนี้แอตแลนติสมีกำหนดเชื่อมต่อกับสถานีอวกาศนานาชาติในวันที่ 11 มิ.ย. เวลา 02.36 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยนักบินอวกาศประจำวางแผนไว้ว่าในการเดินอวกาศทั้ง 3 ครั้งพวกเขาต้องติดตั้งโครงยึดกราบขวาของยานซึ่งหนัก 17.5 ตัน และติดแผงโซลาร์เซลล์ที่ปีกทั้ง 2 ข้างของตัวยานด้วย สำหรับอุปกรณ์ชิ้นใหม่ที่นำขึ้นไปติดตั้งนั้นหนักถึง 317 กิโลกรัมและถือเป็นสัมภาระที่หนักที่สุดนับแต่มีภารกิจสร้างสถานีอวกาศ นอกจากนี้นักบินอวกาศในเที่ยวบินล่าจะรื้อแผงโซลาร์เซลล์อันเก่าไปเก็บไว้ที่กล่องเก็บสัมภาระ

สำหรับลูกเรือของแอตแลนติสภายใต้การนำของสเติร์คโกวประกอบด้วย ลี อาร์แชมบัลต์ (Lee Archambault) ผู้บังคับยาน และผู้เชี่ยวชาญพิเศษอีก 5 คนคือ แพทริก ฟอร์เรสเตอร์ (Patrick Forrester) สตีเฟน สวันสัน (Steven Swanson) แดนนี โอลิวาส (Danny Olivas) เจมส์ รีลลี (James Reilly) และเคลย์ตัน แอนเดอร์สัน (Clayton Anderson) นับเป็นเที่ยวบินที่มีชายล้วนเป็นเที่ยวบินแรกนับจากปี 2002 ทั้งนี้แอนเดอร์สันจะขึ้นไปประจำการบนสถานีอวกาศแทนสุนิตา วิลเลียมส์ (Sunita Williams) นักบินอวกาศหญิงบนไอเอสเอสซึ่งหมดวาระประจำการ โดยเธอจะเดินทางกลับโลกพร้อมกับแอตแลนติสหลังขึ้นไปใช้ชีวิตบนอวกาศ 6 เดือน

ตามกำหนดแล้วแอตแลนติสมีกำหนดถูกส่งขึ้นไปปฏิบัติการในวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่ก็ต้องเลื่อนกำหนดออกมาเนื่องจากพายุที่ไม่ปกติในเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งพัดพาลูกเห็บเข้าถล่มฐานปล่อยจรวดจนทำให้ถังเชื้อเพลิงด้านนอกของยานซึ่งจอดเตรียมพร้อมสำหรับปฏิบัติการเสียหาย ทางนาซาจึงต้องนำยานกลับไปซ่อมแซมยังโรงเก็บยาน ทั้งนี้องค์การด้านอวกาศเลือกที่จะปะซ่อมชิ้นส่วนที่เสียหายแทนที่เปลี่ยนถังเชื้อเพลิงที่หายออกมา แม้ว่าชิ้นส่วนดังกล่าวจะดูโทรมชิ้นส่วนของรถเก่าๆ แต่เจ้าหน้าที่นาซาก็ยืนยันว่ามีความปลอดภัย เนื่องจากได้ทดสอบและวิเคราะห์อย่างรัดกุมแล้ว

พายุลูกเห็บที่เข้าถล่มนาซาเมื่อต้นปีนี้ส่งผลให้นาซาต้องลดจำนนวนปฏิบัติการส่งยานอวกาศในปี 2007 ลงเหลือ 4 เที่ยวบินจากที่กำหนดไว้ 5 เที่ยวบิน ซึ่งองค์การด้านอวกาศของสหรัฐหวังว่าจะต้องส่งยานอวกาศขึ้นไปปฏิบัติภารกิจต่อเติมสถานีอวกาศให้ได้ 12 เที่ยวบิน พร้อมทั้งส่งนักบินอวกาศขึ้นไปซ่อมแซมกล้องโทรทรรศน์ฮับเบิลก่อนที่จะยกเลิกการบินด้วยกระสวยอวกาศในปี 2010 ทั้งนี้เที่ยวบินล่าสุดของนาซานับเป็นปฏิบัติการส่งกระสวยอวกาศครั้งที่ 5 ภายหลังจากอุบัติเหตุยานโคลัมเบียระเบิดขณะเดินทางกลับสู่โลกเมื่อปี 2003

ที่มา: http://www.manager.co.th/
Link: http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9500000066797

No comments: