Thursday, August 23, 2007

นร.ไทยคว้าทอง คอมพ์โอลิมปิก

เด็กไทยยังคงสร้างชื่อบนเวทีระดับโลกอย่างต่อเนื่องล่าสุดสามารถคว้าเหรียญทองและเหรียญเงินในการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ 2550 ที่โครเอเชีย มาได้อย่างสวยงาม ทั้งนี้ นายสุรินทร์ พงศ์ศุภสมิทธิ ผอ.สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เผยเมื่อ 22 ส.ค. ว่า ตามที่ สสวท. ส่งผู้แทนประเทศไทยไปแข่งขันโอลิมปิกวิชาการใน 5 สาขาวิชา ได้แก่ คณิตศาสตร์ เคมี ชีววิทยา ฟิสิกส์ และคอมพิวเตอร์ ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-22 ส.ค. ณ กรุงซาเกร็บ ประเทศโครเอเชีย นั้น ผลการแข่งขันในสาขาคอมพิวเตอร์ ปรากฏว่าผู้แทนประเทศไทยทำได้ 1 เหรียญทอง จากฝีมือของนายภูมิชนิตย์ วัฒนะประกรณ์กุล โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และ 3 เหรียญเงิน จาก น.ส.พิชญา โพธิลิ้มธนา โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ด.ญ.ทักษพร กิตติอัครเสถียร โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ฝ่ายมัธยม) และนายธนะ วัฒนวารุณ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ซึ่งคณะจะเดินทางกลับถึงไทยในวันที่ 24 ส.ค.นี้ เวลา 12.40 น. โดย สสวท.จะจัดพิธีต้อนรับที่สนามบินสุวรรณภูมิ

นายภูมิชนิตย์ เจ้าของเหรียญทองคอมพิวเตอร์ กล่าวว่า ก่อนเข้าโครงการนี้เคยสอบคอมพิวเตอร์ที่โรงเรียนได้เพียง 65% แต่เมื่อตั้งใจและได้รับการสนับสนุนจากครอบครัว อาจารย์และเพื่อน ทำให้พัฒนาขึ้น ดังนั้นทุกคนไม่ควรดูถูกความสามารถของตัวเอง ประสบการณ์ที่ได้จากการเข้าร่วมโครงการโอลิมปิกวิชาการ ทำให้ได้พบคนที่มีความสามารถในศาสตร์หลากหลายต่างๆกัน ได้สัมผัสแนวคิดใหม่ๆที่หลากหลาย เกี่ยวกับการแก้ปัญหาโจทย์ทาง คอมพิวเตอร์ ได้วิธีการคิดใหม่ๆตอนเด็กๆชอบอ่านการ์ตูน โตขึ้นมาหน่อยอ่านนวนิยาย แต่ตอนนี้แทบไม่ได้อ่านหนังสือที่เป็นเล่ม เพราะอ่านจากจอคอมพิวเตอร์ตลอด

น.ส.พิชญา ผู้แทนประเทศไทย 2 ปีซ้อน กล่าวว่าปีที่แล้วได้เหรียญทองแดง ปีนี้ดีใจที่ได้เหรียญเงิน สิ่งที่ชอบคือการเขียนโปรแกรม เพราะได้นำความรู้ทฤษฎีทั้งหมดที่มีอยู่ มาประยุกต์เพื่อแก้ปัญหาและได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นรูปธรรม เคล็ดลับการเรียนคือรักในสิ่งที่เรียน ต้องเรียนเพื่ออยากรู้ ไม่ใช่เรียนเพื่อการสอบ อนาคตใฝ่ฝันจะคิดองค์ความรู้ใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติและโลก

ด้านเด็กหญิงทักษพรกล่าวว่า ชอบเรียนวิชาคอมพิวเตอร์เพราะชอบเล่นเกม ทำให้สนใจคอมพิวเตอร์ และได้เห็นประโยชน์มากมายของวิชาคอมพิวเตอร์ เทคนิคการเรียนต้องไม่เครียดกับการเรียน แต่ตั้งใจเรียนเวลาอาจารย์สอน อยากให้เยาวชนและประชาชนเห็นประโยชน์ ของโครงการโอลิมปิก ว่าไม่ใช่แค่ทำชื่อเสียงให้ประเทศ แต่เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า

ขณะที่นายธนะกล่าวว่า การส่งเสริมนักเรียนให้มีความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นสิ่งสำคัญ หากให้นักเรียนได้ฝึกฝน พัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และเรียนรู้วิทยาศาสตร์จากการปฏิบัติจริงอย่างเต็มที่ จะทำให้การเรียนวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องที่ง่ายและเข้าใจมากขึ้น เคล็ดลับสำคัญในการเรียนคือตั้งใจเรียนในห้องให้ดีที่สุด การกวดวิชาหรืออ่านหนังสือหักโหมเกินไปไม่ช่วยให้ได้พัฒนาความรู้

ที่มา: http://www.thairath.co.th/
Link: http://www.thairath.co.th/offline.php?section=hotnews&content=58437

No comments: