Sunday, August 19, 2007

เที่ยวงานวันวิทยาศาสตร์ที่ท้องฟ้าจำลอง


ย่างเข้าสู่วันวิทยาศาสตร์ หลายหน่วยงานก็เริ่มจัดนิทรรศการทางวิทยาศาสตร์และกิจกรรมต่างๆ เพื่อเยาวชน ขณะที่กระทรวงวิทย์ล่วงหน้าไปก่อนแล้วกับงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คราวนี้ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาที่ท้องฟ้าจำลองกันบ้าง ที่นี่เขาก็มีนิทรรศการและกิจกรรมให้น้องๆ ร่วมสนุกไม่น้อยเลยทีเดียว

เริ่มกันที่ "แรลลีย์เขาวงกต...ลดโลกร้อน" กิจกรรมที่อยู่ด้านหน้าสุดของประตูทางเข้าศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา หรือท้องฟ้าจำลองที่รู้จักกันนั่นเอง น้องๆจะได้เล่นเกมสนุก โดยการเลือกแผ่นป้ายกิจกรรมในชีวิตประจำวันที่ตรงกับใจของตัวเองกี่แผ่นป้ายก็ได้ในฐานต่างๆ ซึ่งแต่ละฐานจะมีข้อมูลให้น้องๆได้ศึกษาว่า อะไรเป็นตัวการทำให้โลกร้อน และเราจะมีวิธีช่วยลดโลกร้อนกันได้อย่างไรบ้าง จากนั้นรวบรวมแผ่นป้ายให้พี่ทีมงานในสถานีพิทักษ์โลกร้อนนับคะแนนและรับของรางวัล หากยังติดใจ จะเล่นต่ออีกกี่รอบก็ได้ ของรางวัลแจกกันไม่อั้นอยู่แล้ว

ช่วงนี้ปัญหาโลกร้อนกำลังมาแรง นอกจากแรลลีย์ลดโลกร้อนแล้ว ยังมีกิจกรรมให้เด็กหัดประกอบลูกโลกจากกระดาษ แต่มีข้อแม้ว่าข้องเขียนข้อความบอกคุณลุงผู้สอนด้วยว่า เราจะช่วยลดโลกร้อนได้อย่างไร เมื่อประกอบเสร็จก็เอาข้อความนั้นมาติดได้เป็นโมบายเก๋ไก๋ทีเดียว น้องๆหลายคนบอกว่าอยากปลูกต้นไม้ให้เยอะๆ เพื่อช่วยลดโลกร้อน ฟังแล้วน่าชื่นใจจริงๆ

ถัดมาไม่ไกลจากกัน ซุ้มเป่าแก้วสดใส ที่ซุ้มนี้น้องๆจะได้เรียนรู้เทคนิคและทดลองเป่าแก้วเป็นรูปต่างๆด้วยตัวเอง ซึ่งจะมีพี่ประจำซุ้มสอนให้ เห็นน้องบางคนกำลังเป่าแก้วเพลินจนลืมเจ็บ เพราะไม่ทันรู้ตัวว่าถูกแก้วบาดปากจนเลือดซิบออกมาเล็กน้อย

ซุ้มนี้ก็สนุกไม่แพ้กัน ซึ่งสอนประดิษฐ์ของเล่นสนุกด้วยวิธีการง่ายๆกับ "กังหันบั่นบื้อ ลดโลกร้อน" ที่ใช้อุปกรณ์จากไม้และเชือกด้ายไม่กี่ชิ้นก็สนุกได้โดยไม่ต้องหาซื้อของเล่นพลาสติกราคาแพง พี่ซุ้มใจดีสอนให้ไม่มีเบื่อ แม้เด็กๆรุมล้อมกันเต็มซุ้ม ใครทำเสร็จแล้วก็นำหลับบ้านได้ หรืออยากทำอีกหลายอันเอาไปฝากเพื่อนที่ไม่มาก็ไม่ว่ากัน

หากคิดอยากจะเป็นนักประดิษฐ์อย่างโทมัส อัลวา เอดิสัน ที่ประดิษฐ์หลอดไฟฟ้าได้เป็นคนแรกของโลก ก็ต้องที่ซุ้มนี้เลย "เกมชวนคิด เอดิสัน 2007" คุณลุงใจดีประจำซุ้มจะสอนให้น้องๆรู้จักและหัดประดิษฐ์มอเตอร์ไฟฟ้าอย่างง่ายด้วยถ่านไฟฉาย ลวดทองแดง และแท่งแม่เหล็ก ผู้จัดการวิทยาศาสตร์แอบเห็นน้องบางคนฉายแววเอดิสันน้อยออกมาด้วย

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสนุกอีกมากมายทั้งการวาดรูป ระบายสี สำหรับน้องๆที่ชอบงานศิลปะ ซึ่งจะได้ฝึกความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการออกมาเป็นรูปภาพสีสวย หรือจะเป็นการดัดขดลวดเป็นรูปต่างๆ ตามแต่จินตนาการของแต่ละคนก็มีให้สนุกกันด้วย

ในส่วนของเวทีกลาง น้องๆจะได้พบกับ 2 มร.โบนิง เมืองไทย ที่จะมาทดลองวิทยาศาสตร์สนุกๆ ให้น้องๆ ได้ดูบนเวทีในรายการ "ไซน์โชว์" (Science Show) ซึ่งจะได้เพลิดเพลินไปกับวิทยาศาสตร์แสนสนุก และยังมีการแสดงมายากล ดนตรี และเกมตอบปัญหาวิทยาศาสตร์ด้วย โดยในวันที่ 23 ส.ค.นี้จะมีการประกวดไซน์โชว์รอบชิงชนะเลิศของน้องๆนักเรียน ทั้งระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา

สนุกกับกิจกรรมมากมายแล้วก็ต้องชมนิทรรศการความรู้ด้วยจะได้เพิ่มพูนทั้งไอคิวและอีคิว ซึ่งที่นี่เขามีนิทรรศการถาวรจัดแสดงอยู่แล้วในอาคาร และที่นอกอาคารสำหรับช่วงสัปดาห์วิทยาศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของวิทยาศาสตร์ไทย ดาราศาสตร์จากทั่วทุกมุมโลก ตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบัน วิวัฒนาการของมนุษย์และสิ่งมีชีวิตต่างๆ ความหลากหลายทางชีวภาพ มหัศจรรย์โลกใต้น้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ วิวัฒนาการหุ่นยนต์ วิทยาการคอมพิวเตอร์ รถยนต์ไฮบริดและจักรยานไฟฟ้าลดโลกร้อน และนิทรรศการธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่น้องๆจะได้เรียนรู้เรื่องโลกร้อนในอดีตกับโลกร้อนในปัจจุบันว่ามันเหมือนหรือต่างกันอย่างไร

เมื่อมาถึงท้องฟ้าจำลองกันแล้วเราก็จะได้ชมท้องฟ้าและดวงดาวยามค่ำคืนในเวลากลางวันด้วยที่ห้องฉายดาว พร้อมทั้งความรู้เรื่องดวงดาวมากมาย ซึ่งเขาจะเปิดให้ชมกันวันละ 4 รอบ รอบละประมาณ 1 ชม. ใครสนใจมาเที่ยวชมงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติของที่นี่ได้ตั้งแต่ 18-24 ส.ค. 2550 หรือมาชมนิทรรศการถาวรและชมท้องฟ้าจำลองกันได้ทุกวันในเวลาราชการ

ที่มา: http://www.manager.co.th/
Link: http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9500000097181

No comments: