Tuesday, July 3, 2007
นวัตกรรมคนไทยประหยัดน้ำมัน-ลดควันดำ
iTAP- เอกชนร่วมทุน iTAP และ IRPUS พัฒนานวัตกรรม ICC. SYSTEM ฝีมือไทย ช่วยให้รถประหยัดน้ำมันและลดควันดำ ชี้ไม่มีผลเสียใดๆกับเครื่องยนต์ ประสิทธิภาพการเผาไหม้ในเครื่องยนต์ดีขึ้น พร้อมราคาประหยัด มาตรฐานส่งออก
วิกฤติพลังงานกำลังเป็นปัญหาในปัจจุบันและต่อเนื่องถึงอนาคต เกี่ยวข้องกับมนุษย์ทุกคนที่ต้องใช้ยานพาหนะในการเดินทาง โดยเฉพาะเจ้าของรถยนต์ที่ต้องเผชิญกับปัญหาราคาน้ำมันขยับตัวสูงขึ้น อัตราการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นสร้างปัญหาทางเศรษฐกิจตามมา รวมทั้งปัญหาที่น้ำมันเชื้อเพลิงเมื่อเกิดการเผาไหม้จะมีการปล่อยก๊าซมลพิษออกมาจำนวนมาก เช่น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งมีอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตและทำลายสิ่งแวดล้อมส่งผลให้เกิดภาวะเรือนกระจก แนวทางในการแก้ปัญหาเพื่อลดปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงและลดมลพิษทางอากาศที่เกิดจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์จึงเกิดขึ้น
โครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย(iTAP)และโครงการอุตสาหกรรมสำหรับนักศึกษาปริญญาตรี(IRPUS)ภายใต้การกำกับและดูแลจากศูนย์ iTAP และ IRPUS ประจำมหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยมีบริษัทโปรอาร์ กรุ๊ป จำกัดร่วมกับคณะที่ปรึกษาโครงการได้ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ DIESELECONOMIZER(DE)อุปกรณ์ในการประหยัดน้ำมันดีเซลและผลิตภัณฑ์ IONIZATION CATALYTIC COMBUSTION SYSTEM(ICC. SYSTEM) อุปกรณ์ประหยัดน้ำมันเบนซิน ตัวอย่างของนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยในการประหยัดน้ำมันฝีมือไทย
ผศ.พนมกร ขวาของ ภาควิชาการวิศวกรรมเคมี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่ปรึกษาโครงการสร้างนวัตกรรมใหม่นี้ กล่าวว่า อุปกรณ์เพื่อการประหยัดน้ำมันในเครื่องยนต์เบนซิน จะเป็นอุปกรณ์หนึ่งที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาไหม้ในเครื่องยนต์ดีขึ้นและเครื่องยนต์เดินเรียบขึ้น ช่วยให้รถประหยัดน้ำมันและลดควันดำหรือมลพิษทางอากาศลง
โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ ICC. SYSTEM ซึ่งเป็นนวัตกรรมล่าสุดที่จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้และเพิ่มสมรรถนะให้กับเครื่องยนต์ หลักการทำงานของนวัตกรรมใหม่อย่าง ICC. SYSTEM คือ จะปรับปรุงอัตราส่วนผสมระหว่างน้ำมันกับอากาศด้วยการเพิ่มปริมาณออกซิเจนเข้าไปในห้องประจุไอดี โดยไม่ผ่านกระบวนการของหน่วยควบคุมความจำอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Control Unit: ECU) ซึ่งประโยชน์ที่จะได้รับคือจะมีอากาศเข้าไปในห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ตามความต้องการจริงเพื่อชดเชยออกซิเจนที่ขาดหายไปในรอบของเครื่องยนต์ที่มีรอบตั้งแต่ปานกลางถึงรอบสูง
ผศ.พนมกร กล่าวว่า การติดตั้งอุปกรณ์เพื่อการประหยัดน้ำมันในเครื่องยนต์เบนซิน จะติดตั้งที่บริเวณท่อร่วมไอดีอากาศจะไหลเข้าในส่วนของอุปกรณ์เพื่อการประหยัดน้ำมันในเครื่องยนต์เบนซินด้วย ทำให้อัตราส่วนของอากาศเพิ่มเข้าไปด้วย จึงทำให้การเผาไหม้สมบูรณ์และประหยัดน้ำมันมากขึ้น โดยทดลองด้วยวิธีการติดตั้งถังน้ำมันที่ออกแบบขึ้นมาเองเพื่อใช้วัดปริมาตรของน้ำมันเชื้อเพลิง พร้อมทั้งบันทึกอุณหภูมิอากาศ จากนั้นจึงนำรถทดสอบที่ยังไม่ได้ติดตั้งอุปกรณ์เพื่อการประหยัดน้ำมันในเครื่องยนต์เบนซินมาเติมน้ำมันและใช้รถไปรวมระยะทางกว่า 80 กิโลเมตร บันทึกความเร็วรอบของรถตลอดระยะเส้นทาง จับเวลาและวัดระยะยทางตั้งแต่รถเริ่มออกวิ่งจนรถหยุด หลังจากนั้นจึงถอดถังน้ำมันและเทน้ำมันจากถังลงในถังตวงอีกที วัดปริมาตรจากถังตวงและนำปริมาตรที่วัดได้ลบกับปริมาตรที่เติมเข้าไปนั่นคือ น้ำมันเชื้อเพลงที่ถูกใช้ไป และทำการทดลองซ้ำจำนวน 3 ครั้ง โดยทดสอบที่อัตราเร็ซ 60, 90 และ 120 km/h ทำการทดสอบวันละครั้งเพื่อเป็นการพักเครื่องยนต์และปรับสภาพเครื่องยนต์ให้สภาวะเหมือนกันทุกครั้งและทำการบันทึกข้อมูล เมื่อการทดลองก่อนติดตั้งอุปกรณ์ต้นแบบเสร็จแล้วจะทำการติดตั้งอุปกรณ์ต้นแบบกับรถยนต์ และทดสอบตามวิธีการข้างต้น
ผลการทดสอบพบว่า อุปกรณ์ดังกล่าวช่วยให้เครื่องยนต์เบนซินประหยัดน้ำมัน 10-15% ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยซึ่งได้จากการทดสอบในรถยนต์ครอบคลุมทั้งรถยนต์ในค่ายญี่ปุ่นหรือยุโรปในสภาพการขับขี่ที่แตกต่างกันตามระยะทางและขึ้นอยู่กับการออกแบบเครื่องยนต์ (ยี่ห้อ)และลักษณะการใช้งาน นอกจากนี้การติดตั้งอุปกรณ์ต้นแบบในรถยนต์จะไม่มีผลเสียใดๆกับเครื่องยนต์และยังส่งผลให้ประสิทธิภาพการเผาไหม้ในเครื่องยนต์ดีขึ้น โดยเครื่องยนต์เดินเงียบและช่วยให้อัตราเร่งของเครื่องยนต์ดีขึ้น อีกทั้งจากการทดสอบไอเสียของรถยนต์พบว่าไฮโดร์คาร์บอน ซึ่งเป็นสาเหตุของควันดำในท่อไอเสียลดลงด้วย
ด้านนายรุ่งศักดิ์ วิเศษศักดิ์ ประธานบริษัทโปรอาร์ กรุ๊ป จำกัด ตัวแทนจำหน่ายทั้งอุปกรณ์ DE ในการประหยัดน้ำมันดีเซลและ ICC. SYSTEM อุปกรณ์ประหยัดน้ำมันเบนซิน กล่าวว่า อุปกรณ์ทั้งสองชนิดนี้เกิดจากการพัฒนานวัตกรรมจากนักวิจัยคนไทย โดยเฉพาะอุปกรณ์ประหยัดน้ำมันล่าสุดอย่าง ICC. SYSTEM ซึ่งเป็นอุปกรณ์ช่วยให้เครื่องยนต์เบนซินสามารถประหยัดทั้งน้ำมันและลดควันดำ จนปัจจุบันมีผู้ใช้รถให้ความมั่นใจนำไปติดตั้งใช้งานแล้วกว่า 5 หมื่นคัน อีกทั้งยังมีการส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศต่างๆกว่า 4 แสนเครื่อง ซึ่งนับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่จะมีเทคโนโลยีเพื่อประหยัดน้ำมันเป็นของตนเอง และยังเป็นนิมิตรหมายอันดีที่ได้รับทุนสนับสนุนจากภาครัฐทั้ง โครงการ iTAP(สวทช.)และโครงการ IRPUS(สกว.)ทำให้สามารถพัฒนาผลงานวิจัยให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศ และยังมีแนวคิดที่จะพัฒนาผลงานวิจัยอื่นๆอีก เพื่อช่วยให้คนไทยได้มีนวัตกรรมเป็นของตัวเองในราคาประหยัด และสร้างศักยภาพในการแข่งขันกับตลาดโลกได้ต่อไป
ที่มา: http://www.manager.co.th/
Link: http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9500000077156
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment