Tuesday, July 17, 2007

กทม.ผุดไอเดียเช่าที่คนรวยเพิ่มปอดคนกรุง-ลดโลกร้อน


ผอ.สำนักสิ่งแวดล้อม ผุดโครงการเช่าที่ดินรกร้างของคนรวย – เอกชนทำสวนป่า สร้างพื้นที่สีเขียว-ต้านโลกร้อน ส่วนการเปิดรับฟังความคิดเห็นร่างแผนปฏิบัติการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนกรุงเทพฯ หงอย เหตุคนกรุงฯ ไม่ร่วมแสดงความเห็น

วันนี้ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็มีแต่คนบ่นว่าโลกร้อนขึ้นมาทุกที ไม่เว้นแม้แต่มหานครใหญ่อย่าง “กรุงเทพฯ” ที่ประสบปัญหากับเขาด้วย ทั้งปัญหาฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล และปัญหาน้ำทะเลกลืนชายฝั่งบางขุนเทียน ฯลฯ เพื่อหาทางออกของปัญหานี้จึงได้มีการหยิบยกขึ้นมาพูดคุยในงาน “ประชุมวิชาการระดับนักศึกษาด้านความหลากหลายทางชีวภาพและการอนุรักษ์ครั้งที่ 1" ระหว่างวันที่ 17 -18 ก.ค. ณ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กรุงเทพฯ

นายนิคม ไวยรัชพาณิช ผอ.สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพฯ เผยว่า เพื่อร่วมแก้ปัญหาดังกล่าว ขณะนี้กรุงเทพฯ ได้จัดทำร่างแผนปฏิบัติการว่าด้วยการลดปัญหาภาวะโลกร้อน พ.ศ.2550- 2555 ขึ้น โดยได้จัดทำร่างแผนดังกล่าวเสร็จแล้วและกำลังเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนมาตั้งแต่วันที่ 4 มิ.ย. ซึ่งร่างแผนจะมีเป้าหมายเพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของกรุงเทพฯ ลงให้ได้ร้อยละ 15 เป็นอย่างน้อยภายในปี 2555 จากปัจจุบันที่คนกรุงเทพฯ ผลิตก๊าซเรือนกระจกสูงถึง ร้อยละ 24 ของทั้งประเทศ หรือประมาณ 82 ล้านตันเทียบเท่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์/ปี ให้เหลือเพียง 70 ล้านตัน/ปี

“เราได้รณรงค์ให้ประชาชนได้มีส่วนในการแก้ปัญหาด้วย เช่น การหันมาใช้หลอดประหยัดแทนหลอดไส้ การลดใช้พลังงาน และการรณรงค์ปลูกต้นไม้บนดาดฟ้าอาคารซึ่งจะช่วยลดอุณหภูมิในอาคารได้ถึง 2 องศาเซลเซียส จึงประหยัดการใช้พลังงานสำหรับระบบทำความเย็น อีกทั้งต้นไม้ยังช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ดี ซึ่งตลอดชีวิตต้นไม้ต้นหนึ่งจะดูดกลืนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศได้ถึงต้นละ 1.8 กก.” ผอ.สำนักสิ่งแวดล้อม กล่าว ซึ่งนอกจากนั้น กรุงเทพฯ ยังมีแนวคิดสร้างพื้นที่สีเขียวจากพื้นที่เอกชนที่ใม่ได้ใช้งานด้วย

“แนวคิดนี้เป็นเนวคิดใหม่ เป็นการสร้างพื้นที่สีเขียวอย่างสวนป่าจากพื้นที่ที่คนมีฐานะและเอกชนมีอยู่แต่ไม่ได้ใช้งาน โดยความสมัครใจของเจ้าของที่ดินนั้นๆ ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะมีการเรียกประชุมเขตทั้ง 50 เขตเพื่อสำรวจดูในพื้นที่ของตัวเองว่ามีรายใดสนใจร่วมงานบ้าง ซึ่งเวลานี้มีผู้เริ่มทำแล้ว 6 ราย เช่นที่สนามหลวง 2” นายนิคม กล่าว สำหรับแนวคิดนี้จะเป็นการตกลงกันในระยะเวลา 5 ปีกับเอกชนในรูปของการเช่าที่ดินในราคาถูก เฉลี่ยไร่ละ 1 -2 บาท โดยเจ้าของที่ดินจะได้ประโยชน์จากการที่ที่ดินไม่ถูกบุกรุก และไม่รกร้างเป็นที่ทิ้งขยะ ขณะที่ยังเป็นการสร้างพื้นที่สีเขียวไปในตัว

อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังมีผู้แสดงความคิดเห็นต่อร่างแผนดังกล่าวน้อยมาก นายนิคม เผยว่า การแสดงความคิดเห็นทางเว็บไซต์ได้มีผู้แสดงความคิดเห็นเพียงประมาณ 100 ความคิดเห็นและทางจดหมายอีกราว 400 -500 ฉบับ ทำให้ไม่สามารถจัดทำแผนให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.ค.ตามกำหนดการเดิม โดยในสุดสัปดาห์นี้ สำนักสิ่งแวดล้อมจะจัดให้มีการลงพื้นที่เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนโดยตรงขึ้น คาดว่าจะทำให้ร่างแผนดังกล่าวแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย.นี้

ทั้งนี้ ร่างแผนดังกล่าวมีกลยุทธ์ 5 ด้านคือ การพัฒนาระบบขนส่งมวลชนและการปรับปรุงระบบจราจร การส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือก การปรับปรุงอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในอาคาร การจัดการขยะและบำบัดน้ำเสีย และการเพิ่มพื้นที่สีเขียว โดยร่างแผนนี้เป็นผลมาจากปฏิญญากรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ณ กรุงเทพฯ และการลงนามร่วมเป็นหนึ่งในมหานครต่างๆ ทั่วโลกที่ร่วมแก้ปัญหาโลกร้อนเมื่อวันที่ 14 -17 พ.ค.ระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำด้านสภาพอากาศ ณ มหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา

สำหรับผู้ที่ต้องการแสดงความคิดเห็นต่อร่างแผนดังกล่าวสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ของกรุงเทพฯ www.bma.go.th หรือส่งทางโทรสารได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 0-2245-3377 และ 0-2245-8432 หรือส่งไปยังสำนักงานเขตใกล้บ้าน

ที่มา: http://www.manager.co.th/
Link: http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9500000083431

No comments: