Wednesday, July 11, 2007

นาซาเตรียมส่ง "ฟีนิกซ์" เจาะน้ำแข็งดาวแดงไล่ล่าหาชีวิตเล็กๆ


เอเจนซี/เอเอฟพี - นาซาเดินหน้าตามหา "ร่องรอยแห่งชีวิต" บนดาวแดง เตรียมส่งยานขุดเจาะพื้นผิว วิเคราะห์น้ำแข็ง หาคาร์บอนและสารประกอบเคมีที่เอื้อต่อความเป็นอยู่ของสิ่งมีชีวิตเล็กๆ

องค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) ยังไม่ลดละความพยายามในการตามล่าหาสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร โดยล่าสุดมีโครงการส่งยานอวกาศลงไปเจาะพื้นผิวที่ราบน้ำแข็งทางตอนเหนือของดาวแดง

หลังจากนาซาส่งหุ่นยนต์ไปปฏิบัติภารกิจสำรวจหลุมและเนินต่างๆ บนพื้นผิวดาวอังคารมานานนับปี ตอนนี้ "ฟีนิกซ์ มาร์ส แลนเดอร์" (Phoenix Mars Lander) พร้อมออกเดินทางไปเจาะลึกใต้พื้นผิวของดาวแดง เพื่อนำดินมาวิเคราะห์ถึงร่องรอยแห่งชีวิตทั้งในอดีตและปัจจุบัน

ทั้งนี้ เหล่านักวิทยาศาสตร์ของสหรัฐฯ ต่างหวังว่าฟีนิกซ์จะได้ทดสอบและตรวจตรา เมื่อเจาะทะลุลงไปบริเวณที่ราบน้ำแข็งทางตอนเหนือของดาวอังคาร จะเห็นว่ามีการละลายของน้ำแข็งในบางช่วงบางขณะหรือไม่ และละลายถึงระดับที่จะทำให้บริเวณดังกล่าว เกิดสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กหรือจุลินทรีย์ได้หรือไม่

"ฟีนิกซ์จะช่วยโครงการสำรวจดาวอังคารให้สมบูรณ์ครบถ้วนยิ่งขึ้น เพราะนับเป็นครั้งแรกที่พวกเราจะได้สัมผัสและวิเคราะห์น้ำของดาวอังคาร น้ำที่ฝังอยู่ในรูปแบบน้ำแข็ง" ผู้อำนวยการโครงการสำรวจดาวอังคารของนาซาเผย

ทั้งนี้ ฟีนิกซ์จะทะยานออกจากฟลอริดาในช่วงเดือน ส.ค. ที่จะถึงนี้ โดยต้องเดินทางนานกว่า 9 เดือนกว่าจะถึงดาวอังคาร และเมื่อฟีนิกซ์สามารถลงจอดได้ในตำแหน่งที่ปลอดภัยบนพื้นผิวดาวอังคาร ยานเจาะไร้มนุษย์ก็จะส่งเครื่องอันล้ำสมัยมที่ไม่เคยใช้มาก่อนบนโลก ออกไปปฏิบัติภารกิจ

ตำแหน่งที่กำหนดให้ฟีนิกซ์ลงจอด คือบริเวณที่ราบน้ำแข็งขั้วเหนือ เปรียบเหมือนดินแดนอลาสกาทางตอนเหนือของโลกเรา ซึ่งบริเวณที่ลงจอด นักวิทยาศาสตร์คาดว่าน่าจะมีอุณหภูมิประมาณ -100 องศาเซลเซียส

ทั้งนี้ฟีนิกซ์ได้รับการออกแบบให้สามารถตรวจสอบข้อมูลประวัติศาสตร์ของน้ำแข็งได้ โดยอาศัยการวิเคราะห์สารเคมี และแร่ธาตุที่ละลายอยู่ในน้ำแข็งเป็นส่วนประกอบ

ยานล้ำสมัยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ลำนี้ ติดแขนยนต์ยาว 2.3 เมตร จะดำเนินการตักดินในลักษณะแนวดิ่ง รวมทั้งเพื่อประโยชน์ในการขุดน้ำแข็ง ที่เชื่อว่าจะลึกลงไปจากพื้นผิวดาวไม่กี่นิ้ว

แขนยนต์ดังกล่าวยังสามารถยกอุปกรณ์อีก 2 ชิ้นที่ติดอยู่ส่วนบนของยานออกมาใช้งานได้ โดยชิ้นหนึ่งคือเครื่องทำความร้อนที่ใช้ตรวจน้ำและวิเคราะห์สารประกอบเคมีที่มีคาร์บอนเป็นฐานเพื่อพิจารณาหาร่องรอยของสิ่งมีชีวิต ส่วนอุปกรณ์อีกชิ้นทำหน้าที่วิเคราะห์สารเคมีในดิน

ที่มา: http://www.manager.co.th/
Link: http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9500000080713

No comments: