Tuesday, July 31, 2007

สัปดาห์วิทย์ปี 50 ชู “โลกร้อน” ผ่านโรงหนัง “4 มิติ”


สัปดาห์วิทย์ปี 2550 เปิดตัวแล้ว กระทรวงวิทย์ชูนิทรรศการ “โลกร้อน” เป็นตัวชูโรง พบโรงภาพยนตร์ 4 มิติเหตุการณ์น้ำทะเลท่วมโลก พร้อมชมหุ่นยนต์ถีบจักรยานจากญี่ปุ่น ตลอดจนนิทรรศการ “ไบโอนิก” สิ่งประดิษฐ์เลียนแบบธรรมชาติ รมว.วิทยาศาสตร์ฯ เผยอยากให้เยาวชนได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบใกล้ตัว เชื่อ 12 วันมีผู้ชมงาน 1.2 ล้านฯ

ระหว่างวันที่ 8 – 19 ส.ค.นี้ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) จะจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2550 ขึ้น ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา กรุงเทพฯ โดยมีการแถลงข่าวการจัดกิจกรรมไปเมื่อวันที่ 31 ก.ค. ณ อาคารพระจอมเกล้าฯ กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ มี ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ รมว.วิทยาศาสตร์ฯ และ ดร.ศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงฯ ร่วมการแถลงข่าว

สำหรับการจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติประจำปี 2550 มีแนวคิดหลักของการจัดงานคือ “วิทยาศาสตร์สร้างปัญญาในสังคม” พิธีเปิดงานจะมีขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 10 ส.ค. โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดงาน และจะมีการแสดงนิทรรศการและกิจกรรมแสดงศักยภาพทางเทคโนโลยีที่นำสมัยโดยความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนในประเทศกว่า 40 หน่วยงาน และมีนิทรรศการจากต่างประเทศมาร่วมจัดแสดงอีกไม่น้อยกว่า 8 ชาติ อาทิ สหรัฐอเมริกา แคนาดา รัสเซีย ญี่ปุ่น เยอรมนี และอังกฤษ

จุดเด่นของงานได้แก่ นิทรรศการเพื่อร่วมรู้จักและแก้ไขปัญหาโลกร้อนอย่างครบวงจร โดยมีโรงภาพยนตร์ 4 มิติ (4 D Theatre) เพื่อจำลองภาพเหตุการณ์น้ำทะเลท่วมเมือง ซึ่งผู้ชมนิทรรศการจะได้สัมผัสทั้งแสง สี เสียง และสัมผัสถึงน้ำที่ท่วมสูงขึ้นด้วยตัวเอง นิทรรศการกองทัพหุ่นยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดกว่า 10 ตัวจากประเทศญี่ปุ่น อาทิ หุ่นยนต์เด็กชายถีบจักรยาน “มุราตะ” (Murata Boy) กองทัพหุ่นยนต์ฮิวมานอยด์ และเก้าอี้สำหรับผู้พิการอัจฉริยะ ทั้งนี้เพื่อเฉลิมฉลองโอกาส 120 ปีความสัมพันธ์ไทย – ญี่ปุ่น

นิทรรศการไบโอนิก (Bionik) จากประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นผลมาจากการศึกษาโครงสร้างของสิ่งมีชีวิตรอบตัวเพื่อมาประยุกต์ใช้กับการพัฒนาทางวัสดุศาสตร์ที่มีประสิทธิภาพดีขึ้น เช่น การศึกษาถึงคุณสมบัติทางเคมีและฟิสิกส์ของอุ้มตีนตุ๊กแกเพื่อพัฒนาสารเกาะยึด การพัฒนาหุ่นยนต์เลียนแบบการเคลื่อนไหวของแมลง การศึกษาคุณสมบัติของใยแมงมุมที่มีความเหนียวและคงทน การศึกษาพื้นผิวปลาฉลามและรูปทรงของนกเพนกวินซึ่งจะช่วยหาวีธีการทำให้คนเราสามารถว่ายน้ำได้เร็วขึ้น

พร้อมกันนี้ ยังมีการนำเสนอผลงานหุ่นยนต์ของ 3 ทีมนักศึกษาไทยที่ร่วมการแข่งขันหุ่นยนต์โลก (World Robocup 2007) ณ ประเทศเยอรมนี ซึ่งหุ่นยนต์กู้ภัย “อินดีเพ็นเด็นท์” ของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศหุ่นยนต์กู้ภัยมาครองได้ ซึ่ง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ นำไปต่อยอดเพื่อใช้แก้ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว

ส่วนนิทรรศการอื่นๆ เช่น นิทรรศการพลังงานยุคใหม่ และถ้ำจำลองวิกฤติพลังงาน “หากโลกนี้ไม่มีพลังงาน” อุโมงค์เรียนรู้ภัยพิบัติจากน้ำ นิทรรศการ 100 ปีสุริยฟิสิกส์ นิทรรศการนาโนเทคโนโลยี การเยี่ยมสถานีป่าจำลองเพื่อศึกษาถึงขุมทรัพย์ทางจุลินทรีย์ แผนที่ภาพถ่ายดาวเทียม และห้องปฏิบัติการทางชีววิทยา รวมไปถึงการแข่งขันการออกแบบหุ่นยนต์นานาชาติ และการแข่งขันเครื่องบินพับกระดาษชิงแชมป์ประเทศไทย ครั้งที่ 4

ขณะที่ภายในงานยังประกอบด้วยนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” มีการจำลองภาพปรากฏการณ์สุริยุปราคาในโดมดูดาวเมื่อ 139 ปีก่อน ซึ่งพระองค์ทรงคำนวณไว้อย่างแม่นยำ และนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในฐานะทรงเป็นพระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย และพระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย อันเนื่องมาจากทรงคิดค้นฝนหลวงตำรับส่วนพระองค์ และพระราชดำริโครงการแกล้งดิน เพื่อพลิกฟื้นพื้นที่การเกษตรเสื่อมโทรมให้แก่เกษตรกรชาวไทย

“ในการจัดงานครั้งนี้ เรามีแนวคิดอยากให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ของประเทศ ตลอดจนประชาชนทั่วไปได้เห็นว่าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นเรื่องสนุก ใกล้ตัว และมีประโยชน์ต่อชีวิต ผ่านการเปลี่ยนความรู้ไปอยู่ในรูปแบบนิทรรศการวิทยาศาสตร์ ไล่เรียงตั้งแต่เรื่องของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมใกล้ตัว ไปถึงนิทรรศการหุ่นยนต์ โดยเชื่อว่าเหล่านี้น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนไทยมาเห็นและสัมผัสวิทยาศาสตร์ด้วยตัวเอง” รมว.วิทยาศาสตร์ฯ กล่าว

ทั้งนี้ การจัดงานครั้งนี้ใช้งบประมาณการจัดงานประมาณ 80,000,000 บาท ซึ่งกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้ชู 2 นักแสดงวัยรุ่นคือ นายศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง และน.ส.พิยดา อัครเศรณี เป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจในวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 1,200,000 คนตลอดการจัดงาน 12 วัน ผู้ร่วมงานสามารถโดยสารรถยนต์ส่วนตัว รถยนต์โดยสารไม่ประจำทางเข้ามาชมงานได้อย่างสะดวก มีพื้นที่จอดรถไว้รองรับ และหากโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสจะมีบริการรถบัสรับและส่งระหว่างสถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุชและพื้นที่การจัดงานตลอดทั้งวัน

ที่มา: http://www.manager.co.th/
Link: http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9500000089205

No comments: