Tuesday, March 13, 2007

โคมไฟหน้ารถ

เอ็มเทคพัฒนาโคมไฟหน้ารถให้แสงสว่างมากขึ้น แถมประหยัดพลังงาน

นักวิจัยศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) ออกแบบไฟหน้ารถยนต์ช่วยให้เห็นถนนยามค่ำคืนได้ชัดเจน อาศัยคอมพิวเตอร์ช่วยออกแบบรูปแบบกระจายแสง ขณะที่วัสดุใช้ทำครอบไฟสามารถทนความร้อนได้ดีขึ้น

นายปิยพงศ์ เปรมวรานนท์ จากศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) เปิดเผยว่า ทีมวิจัยเอ็มเทค ได้ร่วมกับทีมวิจัยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ รวมพลังสมองพัฒนาไฟหน้ารถที่นอกจากเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่แล้ว ยังตอกย้ำเป้าหมายเป็นศูนย์กลางผลิตรถยนต์แห่งเอเชียด้วย

“นอกจากรูปลักษณ์ที่สวยงานของโคมไฟหน้ารถยนต์แล้ว สิ่งที่ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ต้องการคือ โคมไฟที่มีประสิทธิภาพการส่องสว่าง ซึ่งหากพัฒนาให้การส่องสว่างมีลักษณะของการรวมแสงจะช่วยให้วิสัยทัศน์การขับขี่ดีขึ้น” นักวิจัยกล่าว และชี้ข้อด้อยของโคมไฟปัจจุบันเพิ่มเติมว่า วัสดุยังทนความร้อนได้ไม่ดีพอ

ทีมวิจัยได้นำเทคโนโลยีซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์มาใช้ในการออกแบบและวิเคราะห์ทางแสง แม้จะเป็นโปรแกรมที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ แต่นำมาดัดแปลงให้มีความเหมาะสมสำหรับใช้งานมากขึ้น และสามารถใช้จำลองสภาวะการทำงานของไฟหน้ารถ เปรียบเทียบระหว่างโคมไฟที่มีการใช้งานอยู่ในปัจจุบัน

“เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยลดต้นทุนในการผลิตต้นแบบและสามารถลดระยะเวลาในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ช่วยให้ได้สินค้าที่ตรงตามมาตรฐานยานยนต์สากล สำหรับส่งออกไปยังต่างประเทศ” นักวิจัย กล่าว

สุดท้ายทีมงานได้ออกแบบโคมไฟหน้ารถยนต์ที่มีประสิทธิภาพส่องสว่าง ขณะเดียวกันสามารถลดอุณหภูมิภายในโคมไฟให้ต่ำลงได้ ทำให้นำชิ้นส่วนพลาสติกมาประยุกต์ใช้ได้ โคมไฟจึงมีน้ำหนักเบาลง ความร้อนที่ลดลงยังช่วยลดการใช้พลังงานได้ด้วย นอกจากนี้ ความสว่างที่เพียงพอกับการขับขี่ ช่วยให้คนขับไม่จำเป็นต้องเปิดไฟสูงขณะขับรถ ป้องกันปัญหาเลนส์ละลายได้อีกทางหนึ่ง

เอ็มเทคยังได้ร่วมกับผู้ประกอบการชิ้นส่วนยานยนต์จัดทำฐานข้อมูลที่จำเป็นต่อการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยอาศัยเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในการออกแบบและวิเคราะห์ทางแสง นอกจากนี้ได้เตรียมจัดตั้งห้องปฏิบัติการทดสอบคุณสมบัติทางแสงของวัสดุ เพื่อเปิดให้บริการกับเอกชน โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในต้นปี 2550

ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

No comments: