Thursday, November 2, 2006

เทศกาลหนังวิทย์

เทศกาลหนังวิทย์จ่อฉายชวนคนไทยดูให้เต็มอิ่มฟรี 61 เรื่องจากทั่วโลก

สถานทูตฝรั่งเศสและหน่วยงานวิทยาศาสตร์ไทย เชิญชวนเยาวชนและผู้สนใจทั่วไปชมฟรีสารคดีวิทยาศาสตร์ 61 เรื่อง จาก 13 ประเทศ เนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่จักรวาลลี้ลับ ชีวิตมดจนถึงโลกของไวรัส หวังเปิดโลกทัศน์และกระตุ้นเด็กไทยสนใจเรื่องราวทางวิทยาศาสตร์มากขึ้น

ศ.ดร.สุรินทร์ พงศ์ศุภสมิทธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) กล่าวว่า สสวท.กำหนดจัดงานเทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้แห่งประเทศไทย ครั้งที่ 2 นำเสนอภาพยนตร์ 61 เรื่อง ที่ผ่านการประกวดคัดเลือกจาก 13 ประเทศ ได้แก่ เยอรมนี ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย เดนมาร์ก สวิตเซอร์แลนด์ อังกฤษ สกอตแลนด์ อิตาลี ไทย เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน และเวียดนาม

ภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ที่นำมาจัดฉาย แบ่งเป็น 7 ประเภทหลักตามเนื้อหาคือ เพื่อเด็ก เยาวชนและครอบครัว เพื่อการศึกษาและวัฒนธรรม เพื่อวิทยาการเทคโนโลยี เพื่อวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อนิเวศวิทยา และเพื่อความรู้ทางวิทยาศาสตร์

เทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-26 พฤศจิกายนนี้ ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ) เอกมัย, พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร สวนจตุจักรและองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ คลองห้า โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สถาบันเกอเธ่แห่งสถานทูตฝรั่งเศส โดยการสนับสนุนของบริษัท ไบเออร์ประเทศไทย จำกัด ดูรายละเอียดได้ที่ www.ipst.ac.th หรือโทรสอบถามที่ 0-2392-4021 ต่อ 3306, 3311

นายสาคร ชนะไพฑูรย์ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมพิเศษ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) กล่าวว่า เทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ในปีนี้ ได้คัดเลือกบทภาพยนตร์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ภาพยนตร์เกี่ยวกับวัฏจักรของมด พลังลึกลับแห่งธรรมชาติ จากประเทศออสเตรีย กำเนิดลูกช้างจากประเทศฝรั่งเศส สวรรค์ของงูจากประเทศอิตาลี ถอดรหัสโลกไวรัสจากประเทศเยอรมนี พระจันทร์ 140 จากประเทศไทย เป็นต้น ภาพยนตร์เหล่านี้จะบรรยายเป็นภาษาไทยเพื่อให้ง่ายต่อการชมและเข้าใจ

"การจัดงานครั้งนี้ ผู้จัดต้องการดึงจุดเด่นของวิทยาศาสตร์ออกมาให้ผู้ชมได้เข้าใจง่ายที่สุด และสามารถประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำ ส่วนความรู้ที่ได้รับจากภาพยนตร์นั้น ที่ไม่สามารถหาดูได้จากโรงภาพยนตร์ใดๆ อีกแล้ว" ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมพิเศษ กล่าว

ที่มา : komchadluek

No comments: