หลังจากคำนวณกันรอบใหม่นักวิทยาศาสตร์อเมริกันจึงรู้ว่า จักรวาลมีสสารปกติและสสารมืด "น้อยกว่า" ที่เคยคิดกัน เท่ากับว่าจักรวาลมีน้ำหนักลดลง 10-20%
แต่การยืนยันข้อสรุปนี้จำเป็นต้องพึ่งพานาซาในการส่งยานอวกาศไปสำรวจท้องฟ้าเพื่อหาแนวเส้นรังสีเอ็กซ์ของสสารปกติ
บางคนอาจเคยได้ยินคำว่า"สสารมืด" มาบ้างแล้วแต่ยังงงอยู่ว่าคืออะไรกันแน่ สสารมืดเป็นสสารลึกลับที่มองไม่เห็น นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ามันมีจำนวนมากกว่า "สสารปกติ" ในสัดส่วน 5 ต่อ 1 ทั้งนี้ สสารปกติได้แก่ ฝุ่นอวกาศ ก๊าซ ดาวเคราะห์ ดาวฤกษ์ อุกกาบาต น้ำแข็งและอื่นๆ ในจักรวาลที่มองเห็นเป็นตัวตน
การประเมินครั้งล่าสุดมาจากการเฝ้าสังเกตกระจุกกาแล็กซีอะเบล 3112 เมื่อปี 2545 นักดาราศาสตร์ประกาศว่า พวกเขาติดตามร่องรอยของรังสีเอ็กซ์ในกระจุกกาแล็กซี รวมถึงฝุ่นเมฆและก๊าซที่อยู่ระหว่างกาแล็กซี ขณะที่การสังเกตการณ์ด้วยกล้องโทรทรรศน์จันทราของนาซา กลับไม่พบสัญญาณของแสง หรือที่เรียกว่า แนวเส้นการกระจายสเปกตรัม ที่ควรเปล่งออกมาจากอะตอมในกลุ่มเมฆ
ถึงตอนนี้ทีมงานคิดว่ารังสีเอ็กซเรย์ที่พบครั้งนั้น เป็นผลมาจากการปะทะกันระหว่างอิเล็กตรอนและโปรตอนในอวกาศ เมื่อเป็นเช่นนี้นักดาราศาสตร์จึงประเมินน้ำหนักกระจุกกาแล็กซีใหม่
สิ่งที่เกิดขึ้นหมายความว่าเมฆที่เปล่งรังสีเอ็กซ์มีมวลน้อยกว่าที่เราคาดไว้ แม็กซ์โบนาเมนเต นักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยอลาบามา สหรัฐ กล่าว
ทฤษฎีสสารมืดได้รับการนำเสนอเพื่ออธิบายว่าทำไมกาแล็กซีถึงเกาะกลุ่มกันโดยไม่หนีแยกจากกัน ทั้งที่หมุนด้วยความเร็วจี๋ ดังนั้น เมื่อกาแล็กซีอะเบลมีสสารปกติน้อยลง สสารมืดจึงมีปริมาณน้อยลงเพื่อดึงกาแล็กซีให้เกาะกลุ่มกัน
นักดาราศาสตร์กล่าวว่าถ้านำหลักดังกล่าวมาอธิบายกระจุกกาแล็กซีอื่น เท่ากับว่าจักรวาลทั้งหมดมีน้ำหนักเบาลง อย่างไรก็ตาม การค้นพบล่าสุดของทีมนี้ จำเป็นต้องส่งยานอวกาศไปส่องท้องฟ้า เพื่อหาแนวเส้นการกระจายรังสีเอ็กซ์ของสสารปกติเพื่อยืนยัน
ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment