Wednesday, May 9, 2007

ไอบีเอ็มพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตชิป ลอกเลียนแบบธรรมชาติ


ไอบีเอ็ม ยักษ์ใหญ่สีฟ้าประสบความสำเร็จในการปรับใช้เทคนิค "การประกอบสร้างด้วยตัวเอง" เพื่อสร้างฉนวนสูญญากาศระดับนาโนสำหรับไมโครโปรเซสเซอร์รุ่นอนาคตได้เป็นรายแรก

ความสำเร็จครั้งนี้ของไอบีเอ็มเป็นการประยุกต์ใช้นาโนเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำในการประกอบสร้างด้วยตัวเอง หรือ self-assembly สำหรับการผลิตชิป โดยลอกเลียนแบบกระบวนการทางธรรมชาติ เพื่อใช้ในการผลิตชิปคอมพิวเตอร์สำหรับอนาคต โดยไอบีเอ็มได้ปรับใช้กระบวนการสร้างรูปแบบและลวดลายตามธรรมชาติ ซึ่งประกอบสร้างเปลือกหอย เกล็ดหิมะ และผิวเคลือบฟัน เพื่อสร้างรูเล็กๆ จำนวนหลายล้านล้านรู ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นฉนวนสุญญากาศที่ห่อหุ้มลวดทองแดงความยาวหลายไมล์ ซึ่งมีขนาดเล็กมากในระดับนาโน และอัดแน่นอยู่ที่แต่ละด้านภายในชิปคอมพิวเตอร์

จากการรันชิปรุ่นใหม่ภายในห้องปฏิบัติการของไอบีเอ็มโดยใช้เทคนิคนี้ นักวิจัยได้พิสูจน์ให้เห็นว่าสัญญาณไฟฟ้าบนชิปสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้นถึง 35 เปอร์เซ็นต์ หรือใช้พลังงานน้อยลง 35 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับชิปรุ่นที่ก้าวล้ำที่สุดซึ่งใช้เทคนิคแบบเก่า

กระบวนการประกอบสร้างด้วยตัวเองซึ่งได้รับการจดสิทธิบัตรโดยไอบีเอ็มช่วยต่อยอดวิธีการผลิตโดยใช้นาโนเทคโนโลยีจากห้องปฏิบัติการไปสู่กระบวนการผลิตในเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก โดยรองรับการปรับปรุงประสิทธิภาพการเชื่อมต่อลวดนำไฟฟ้าตามกฎของมัวร์ (Moore's Law) ได้ถึงสองเจเนอเรชั่นในคราวเดียวกัน เมื่อเทียบกับเทคนิคการผลิตที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน

ฉนวนรูปแบบใหม่นี้ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์มักจะเรียกว่า "ช่องอากาศ" (Airgap) นับเป็นชื่อที่คลาดเคลื่อน เพราะที่จริงแล้วช่องว่างเหล่านี้มีลักษณะเป็นสูญญากาศ นั่นคือ ไม่มีอากาศอยู่เลย ไอบีเอ็มใช้เทคนิคนี้เพื่อสร้างสูญญากาศระหว่างลวดทองแดงบนชิปคอมพิวเตอร์ จึงช่วยให้สัญญาณไฟฟ้าเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น แต่ใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยลง กระบวนการประกอบสร้างด้วยตัวเองนี้รองรับการสร้างลวดลายที่มีขนาดเล็กมากในระดับนาโน ซึ่งเล็กมากเมื่อเทียบกับเทคนิคการพิมพ์ลายที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน

กระบวนการประกอบสร้างด้วยตัวเองได้รับการผนวกรวมเข้ากับสายการผลิตของไอบีเอ็มที่โรงงานในเมืองอีสต์ ฟิชคิลล์ รัฐนิวยอร์ก และคาดว่าจะนำมาปรับใช้กับสายการผลิตและชิปของไอบีเอ็มอย่างสมบูรณ์ภายในปี 2009 ชิปรุ่นใหม่จะใช้ขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ของไอบีเอ็ม และหลังจากนั้นจะนำไปใช้กับชิปที่ไอบีเอ็มผลิตให้แก่บริษัทอื่นๆ

เอเดลสไตน์ เป็นหัวหน้าทีมไอบีเอ็มที่ประดิษฐ์คิดค้นเทคนิคดังกล่าวได้ใช้ลวดทองแดงในชิปคอมพิวเตอร์ แทนที่จะใช้อลูมิเนียม ซึ่งเป็นวิธีการมาตรฐานสำหรับการผลิตชิปในปัจจุบัน โดยนับเป็นส่วนหนึ่งของการสรรค์สร้างนวัตกรรมทางด้านชิปของห้องปฏิบัติการของไอบีเอ็มในช่วงเวลาหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งเปลี่ยนแปลงวิธีการผลิตและการใช้ชิปสำหรับอุตสาหกรรมและการประยุกต์ใช้งานที่หลากหลาย

ที่มา: http://www.manager.co.th/
Link: http://www.manager.co.th/cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9500000053186

No comments: