Tuesday, May 8, 2007

"แกรนด์สปอร์ต" เตรียมมอบ "แจ็กเกตนาโน" ให้ ครม.


"แกรนด์สปอร์ต" เตรียมมอบเสื้อแจ็กเกตนาโนให้ ครม. ด้าน รมว.วิทย์เผยเป็นตัวอย่างผลงานของความร่วมมือในงานวิจัยระหว่างรัฐและเอกชนที่ช่วยยกระดับสินค้าสิ่งทอซึ่งกำลังถูกแข่งขันจากเวียดนาม อินโดนีเซีย ส่วน “นาโนมาร์ก” มาตรฐานเสื้อนาโนสกัดของปลอมกำลังอยู่ระหว่างตั้งคณะกรรมการและยังระบุไม่ได้ว่าจะออกมาเมื่อใด

ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เผยถึงกรณีบริษัท แกรนด์ สปอร์ต กรุ๊ป จำกัด เตรียมนำเสื้อแจ็กเกตนาโนซึ่งร่วมวิจัยกับศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) ไปมอบให้แก่คณะรัฐมนตรีว่า ถือเป็นตัวอย่างของความร่วมมือในการวิจัยระหว่างเอกชนและหน่วยงานวิจัยของภาครัฐ ซึ่งหวังว่าต่อไปจะมีเอกชนรายอื่นๆ ให้ความสนใจที่ร่วมงานในลักษณะนี้เพิ่มขึ้น ส่วนจะมอบให้เมื่อไหร่ จำนวนเท่าใดนั้นไม่ทราบรายละเอียด

“ส่วนทำสิ่งทอธรรมดาแข่งขันได้ลำบากเพราะค่าแรงเราแพง ก็หวังว่าจะมีความร่วมมือเช่นนี้อีก ถือเป็นตัวอย่างของการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปแก้ปัญหา ตอนนี้สิ่งทอประเภท“เทคนิคัลเท็กซ์ไทล์” (Technical Textile) ยังทำอยู่น้อย มีเพียง 50,000 ตัน หรือ 5% ของสิ่งทอที่ส่งออกเท่านั้น ก็หวังว่าจะมีความร่วมมืออย่างนี้มากขึ้นอีก และบริษัทเอกชนอื่นๆ คงจะสนใจทำเช่นกัน” ดร.ยงยุทธกล่าว

ทั้งนี้รัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์ได้ชี้แจงว่าอุตสาหกรรมสิ่งทอของไทยนั้นมีทั้งความก้าวหน้าและปัญหา โดยไทยส่งออกสิ่งทอเป็นอันดับต้นๆ ของโลกแต่ก็กำลังถูกไล่หลังโดยเวียดนาม อินโดนีเซีย และไม่นับรวมประเทศอินเดียซึ่งเก่งทางด้านสิ่งทออยู่แล้ว ซึ่งปัญหาในการแข่งขันนั้นทางบริษัทเอกชนก็ต้องมองหาออกให้กับปัญหาดังกล่าว

โดยส่วนตัว ดร.ยงยุทธมองทางรอดของเอกชนในเรื่องสิ่งทอไว้ 2 ทาง คือเรื่องการปรับปรุงคุณภาพสินค้าให้เป็นสินค้าดีขึ้น เช่น ให้เป็นสิ่งทอพิเศษอย่างสิ่งทอนาโน ที่ทำให้ไม่เปื้อนง่าย สามารถปรับอุณหภูมิของเสื้อให้ร้อนหรือเย็นได้ เป็นต้น และ 2.ดูแลวงจรการผลิตสิ่งทอให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในกระบวนการผลิต ฟอกย้อมต้องไม่ปล่อยน้ำเสียจากการผลิต เนื่องจากผู้สนใจเริ่มใส่ใจในสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดทางสหภาพยุโรปหรืออียูที่จะไม่รับสินค้าที่มีปัญหากับสิ่งแวดล้อม

ทางด้าน ดร.วิยงค์ กังวานศุภมงคล นักวิจัยศูนย์นาโนเทคซึ่งร่วมวิจัยและพัฒนาเสื้อแจ็กเกตนาโนดังกล่าวเผยว่าเสื้อดังกล่าวเคลือบสารนาโนกันน้ำที่ด้านนอกและเคลือบสารนาโนของซิงค์ออกไซด์ (Zinc Oxide) ที่ด้านในซึ่งจะช่วยให้ฆ่าเชื้อโรคและทำให้ผ่าไม่เหม็นง่าย โดยจากผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการพบว่าเมื่อซัก 30 ครั้งแล้วสมบัติในการฆ่าเชื้อยังอยู่

นอกจากนี้ ดร.วิยงค์ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะศึกษาเกี่ยวกับตั้งมาตรฐาน “นาโนมาร์ก” (Nano Mark) ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับสินค้านาโน กล่าวว่าขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อสร้างมาตรฐาน โดยมาตรฐานที่ออกมานั้นจะไม่จำกัดอยู่ที่เสื้อนาโนเท่านั้น แต่จะไปถึงสินค้านาโนอื่นๆ อาทิ ยา เครื่องสำอาง เป็นต้น ส่วนมาตรฐานดังกล่าวจะออกมาเมื่อไหร่นั้นยังไม่สามารถระบุได้ แต่คาดว่ามาตรฐานสำหรับเสื้อนาโนจะออกมาก่อน โดยเสื้อที่ทดสอบได้ง่ายจะมีมาตรฐานออกมาก่อน

ส่วนคณะทำงานที่จะเข้าร่วมสร้างมาตรฐานสินค้านาโนได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) สถาบันพัฒนาสิ่งทอ และบริษัทเอกชนบางส่วนที่เข้าร่วม และเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาทางด้าน ศ.ดร.วิวัฒน์ ตัณฑะพานิชกุล ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทค เผยว่าจะสามารถจัดทำมาตรฐานนาโนมาร์กได้ภายในเวลา 6 เดือน

ที่มา: http://www.manager.co.th/
Link: http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9500000051051

No comments: