Thursday, September 13, 2007

เปลือกกุ้งทำเจลนาโนกันแดดอยู่หมัด


ทีมวิจัยจุฬาฯสกัดสารจากเปลือกกุ้ง เปลือกปูช่วยให้เจลกันแดดซึมลึกถึงผิวชั้นในปล่อยวิตามินปกป้องผิวได้เต็มที่ ออกฤทธิ์กันรังสียูวีได้นานกว่าผลิตภัณฑ์กันแดดทั่วไป

กลุ่มนักวิจัยจากหลายสาขาประกอบด้วยภาควิชาเคมี ชีววิทยา และสัตวแพทย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดึงความเชี่ยวชาญเฉพาะตัวมาร่วมกันสกัดเปลือกกุ้ง ปู และแกนปลาหมึก ที่ล้วนเป็นของเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมอาหารทะเล มาเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันรังสียูวีให้กับเจลกันแดด

จากการศึกษาสารในกลุ่มกรองรังสียูวีเอและยูวีบี ในเครื่องสำอางที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาด พบว่า ประสิทธิภาพป้องกันแสงยูวีลดลงเมื่อใช้ไประยะหนึ่ง นอกจากนี้ ส่วนผสมของสารไทเทเนียมไดออกไซด์ระดับนาโนที่ช่วยพาเนื้อครีมซึมผ่านชั้นผิวหนังกำพร้าลงสู่ผิวหนังชั้นในดีขึ้น กลับมีผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ และทำให้ผิวหน้าขาวผิดปกติ

รศ.ดร.ศุภศร วนิชเวชารุ่งเรือง จากภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ไคติน-ไคโตซาน ที่พบได้ในเปลือกกุ้ง และแกนปลาหมึก มีคุณสมบัติเหมาะสมนำมาปรับปรุงโครงสร้างทางเคมีเพิ่มความสามารถในการกรองรังสียูวี

“รังสียูวีเอ และยูวีบี เป็นสารที่มีผลเสียต่อผิวหนัง ในการกระตุ้นดีเอ็นเอ และโปรตีนในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างโมเลกุลในระดับเซลล์ ส่งผลให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น เกิดอนุมูลอิสระ จนถึงโรคมะเร็งผิวหนัง” นักวิจัยอธิบาย

ไคติน-ไคโตซาน มีคุณสมบัติกระจายตัวได้ดีในน้ำ และไม่ตกตะกอน สามารถเก็บกักสารออกฤทธิ์ได้นาน เมื่อทำให้เนื้อครีมมีขนาดเล็กลงในระดับอนุภาคนาโน ขนาด 100 นาโนเมตร ช่วยเพิ่มคุณสมบัติให้สารป้องกันยูวีทำหน้าที่ป้องกันผิวได้นานขึ้น ขณะที่ปล่อยให้วิตามินบำรุงผิวซึมเข้าสู่ผิวหนังชั้นในได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ปัจจุบันงานวิจัยดังกล่าวได้ทำการศึกษาในหนูทดลองร่วมกับคณะสัตวแพทยศาสตร์ โดยทดสอบระดับเลือดของหนู หลังจากได้รับสารดังกล่าว ตลอดจนทดสอบในอาสาสมัครกลุ่มย่อย จำนวน 15 คน ร่วมกับภาควิชาจุลชีววิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศึกษาถึงความปลอดภัยและความเป็นพิษต่อเซลล์ โดยงานวิจัยดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.)

อย่างไรก็ตาม นักวิจัยยอมรับว่ายังจะต้องทดสอบความคงตัวและความเป็นพิษ และประสิทธิภาพในการปลดปล่อยตัวยา ก่อนที่ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้เอกชนนำไปผลิตเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณกลางปี 51

ที่มา: http://www.bangkokbiznews.com/
Link: http://www.bangkokbiznews.com/2007/09/13/WW54_5404_news.php?newsid=94407

No comments: