Monday, January 7, 2008

ไทยลุ้นใช้กล้องดูดาวยักษ์ก่อนสิ้นปี 51

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์เผยกล้องดูดาวขนาดใหญ่ที่จะติดตั้งบนดอยอินทนนท์กำหนดเดินทางจากสหรัฐถึงไทยในช่วงปลายปี 51 มั่นใจช่วยเพิ่มงานวิจัยดาราศาสตร์ของคนไทย จากที่ผ่านมาต้องใช้ภาพถ่ายดวงดาวจากต่างประเทศ

รศ.บุญรักษาสุนทรธรรม ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ สดร.ว่า คณะกรรมการ สดร.ชี้แจงความคืบหน้าการก่อสร้างหอดูดาวแห่งชาติ บริเวณยอดดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ ว่าเป็นไปตามแผนที่วางไว้ เช่นเดียวกับการสร้างกล้องดูดาว ซึ่งเป็นไปตามกำหนด โดยอยู่ระหว่างการประกอบและทดสอบประสิทธิภาพ ที่เมืองอริโซนา สหรัฐอเมริกา คาดว่าจะส่งถึงประเทศไทยประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน 2551

"กล้องดูดาวที่นำมาติดตั้งบนหอดูดาวแห่งชาตินี้ เป็นกล้องโทรทรรศน์ชนิดสะท้อนแสง ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.4 เมตร เป็นกล้องที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในแถบเอเชีย" รศ.บุญรักษา กล่าวและว่า กล้องดังกล่าวได้ติดตั้งระบบฐาน ระบบขับเคลื่อนกล้องอัตโนมัติ และระบบโดมที่เคลื่อนที่อัตโนมัติสอดคล้องกับการเคลื่อนที่ของกล้องโทรทรรศน์ ซึ่งจะทำให้การสังเกตการณ์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ด้วยความสามารถของกล้องดูดาวนี้จะเพิ่มความสามารถในการส่องดูภาพวัตถุบนท้องฟ้าที่มีขนาดเล็กมาก รวมถึงกระจุกกาแลกซี และกาแลกซีที่มีอายุมาก ซึ่งสามารถถ่ายภาพที่มีความละเอียดสูง

ในอดีตสถาบันวิจัยตลอดจนนักดาราศาสตร์จะต้องซื้อภาพจากต่างประเทศเพียงอย่างเดียว ด้วยเหตุนี้กล้องดูดาวดังกล่าวจะช่วยผลักดันงานวิจัยด้านดาราศาสตร์ของประเทศไทยให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นได้ในอนาคต ผู้อำนวยการสดร. กล่าว

ส่วนการสร้างหอดูดาวที่กม.31 บริเวณยอดดอยอินทนนท์ จำเป็นต้องคำนึงถึงความพร้อมด้านสถานที่ โดยรับฟังข้อคิดเห็นจากประชาชน ที่มีข้อกังวลด้านสิ่งแวดล้อมประกอบด้วย ซึ่งในส่วนการสร้างหอดูดาว คาดว่าจะใช้งบประมาณของปี 2552

ทั้งนี้สิ่งที่สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติดำเนินการควบคู่ไปกับการก่อสร้างหอดูดาวแห่งชาติ คือ การผลักดันพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) พ.ศ. ... คาดว่าจะจัดตั้งได้สำเร็จภายในปีนี้

ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

No comments: