นิสิตวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ม.เกษตรฯ คว้ารางวัลชนะเลิศการแข่งขันพัฒนาซอฟต์แวร์ระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จากการส่งซอฟต์แวร์แปลงรูปภาพเป็นตัวอักษรเข้าประกวด ผลทดสอบให้ความแม่นยำ ได้ข้อความเร็วกว่าพิมพ์
นายนัฏฐ์ปิยะโมทย์ ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ซอฟต์แวร์แปลงภาพถ่ายตัวหนังสือจากกล้องดิจิทัล หรือภาพจากการสแกนให้เป็นข้อความ ช่วยลดเวลาจดคัดลอกหรือพิมพ์ใหม่ และนำไปใช้งานด้านเอกสารดิจิทัลได้หลากหลาย
ซอฟต์แวร์ดังกล่าวใช้เวลาศึกษามากว่า2 ปี ตั้งแต่เรียนอยู่โรงเรียนสารสิทธิ์พิทยาลัย และพัฒนาแล้วเสร็จในเวลา 4 เดือนหลังขึ้นชั้น ม.6 โดยตั้งชื่อซอฟต์แวร์ตัวนี้ว่า ทันใจโอซีอาร์
โปรแกรมแปลงตัวอักษรภาพดิจิทัลหรือที่เรียกว่า โอซีอาร์ มีเผยแพร่มาระยะหนึ่งแล้ว โดยเป็นซอฟต์แวร์แถมมากับเครื่องสแกนเนอร์ ซึ่งใช้แปลงตัวภาพอักษรโรมันเป็นตัวอักษรในรูปแบบเอกสารพร้อมใช้งาน แต่โปรแกรมใช้งานแปลงภาษาไทยยังมีผู้พัฒนาน้อยราย
โปรแกรมทันใจโอซีอาร์ออกแบบให้แปลงตัวอักษรภาษาไทยจากภาพดิจิทัลให้เป็นตัวอักษรภาษาไทยสำหรับใช้งานกับโปรแกรมเอกสาร เช่น ไมโครซอฟท์เวิร์ด และอื่นๆ
หลังทดสอบการรู้จำของซอฟต์แวร์ด้วยการนำไฟล์ภาพมาให้แปลงพบว่าสามารถแปลงข้อมูลไฟล์ภาพเป็นตัวอักษรได้ 76 ตัวอักษรต่อวินาที ซึ่งเร็วกว่าการพิมพ์ทั่วไป ที่ปกติมีมาตรฐานอยู่ที่ประมาณ 35-45 คำต่อนาที โดยให้ความแม่นยำมากถึง 90-95% ทั้งยังอ่านลักษณะตัวอักษรได้ 6 รูปแบบที่นิยมใช้ในโปรแกรมเวิร์ด นายนัฏฐ์กล่าว
ซอฟต์แวร์ดังกล่าวได้ทุนสนับสนุนจากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติมูลค่า7 หมื่นบาท โดยคว้ารางวัลชนะเลิศประเภทนักเรียนจากการแข่งขันระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่สิงคโปร์เป็นเจ้าภาพเมื่อสิ้นเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยได้รับการส่งเสริมจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) และสมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศไทย
นายสุธีร์สธนสถาพร เลขาธิการสมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศไทย และกรรมการบริหารเอเชีย แปซิฟิก ไอซีที อะวอร์ด กล่าวว่า ซอฟต์แวร์ทันใจเป็น 1 ใน 6 ซอฟต์แวร์ที่ได้รับรางวัลจากการส่งเข้าแข่งขันทั้งสิ้น 12 ซอฟต์แวร์ ถือว่าน่าภูมิใจเป็นอย่างมาก เพราะได้รับรางวัลใกล้เคียงกับสิงคโปร์ ที่ส่งผลงานแข่งขันมากถึง 43 ผลงาน
ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment