Monday, December 3, 2007

โลกร้อนแล้ว! วิจัยตั้งรับผลกระทบสำคัญกว่าลดสาเหตุ


นักวิจัยระบุโลกร้อนและอากาศแปรปรวนแล้ว สิ่งสำคัญไม่ใช่ลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่เป็นการตั้งรับผลกระทบเพื่ออยุ่ให้ได้ในการเปลี่ยนแปลง

"โลกได้เปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้โลกร้อนแล้ว อากาศแปรปรวนแล้ว แล้วเราจะอยู่อย่างไรในโลกที่เปลี่ยนแปลงนี้โดยที่เรายังอยู่รอด จากนั้นอีกร้อยปีค่อยมาว่ากันเรื่องการลดภาวะโลกร้อน" คำกล่าวของ ผศ.ดร.อำนาจ ชิดไธสง บัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม และคณะทำงานกลุ่มที่ 1 ซึ่งมีหน้าที่วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของก๊าซมีเทนในบรรยากาศทั่วโลกของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ไอพีซีซี)

ทางด้านนางสุปราณี จงดีไพศาล ผู้อำนวยการฝ่ายสวัสดิภาพสาธารณะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) กล่าวถึงการแก้ปัญหาโลกร้อนในไทยว่า การจะแก้ปัญหาในตอนนี้ต้องรู้เรื่องผลกระทบก่อน หากแต่ปัจจุบันเรารณรงค์เรื่องลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคพลังงานเป็นสำคัญแต่ไม่ได้พูดถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ โดยการศึกษาผลกระทบต้องอาศัยข้อมูลวิทยาศาสตร์ที่มีความละเอียดเพียงพอเพื่อวางแผนการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต

"การรณรงค์ใช้ถุงผ้าถือเป็นการสร้างความตระหนักในการเรื่องของการลดการปลดปล่อย แต่สิ่งที่เราต้องสร้างความตระหนักเป็นเรื่องของผลกระทบ ซึ่งจะเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศมากกว่าการรณรงค์ใช้ถุงผ้าที่เชื่อมโยงกับการลดการปลดปล่อยและเป็นเรื่องของภาคพลังงาน เพราะตอนนี้โลกได้ร้อนแล้ว" นางสุปราณีกล่าว

นางสุปราณีกล่าวถึงอุปสรรคในการทำวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศว่าการศึกษาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศต้องใช้งบประมาณสูงเพราะต้องใช้นักวิจัยที่มีความสามารถสูงและต้องอาศัยข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐในหลายส่วน เช่น ข้อมูลสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาที่ย้อนไป 30 ปี เป็นต้น พร้อมระบุว่าขณะนี้เรายังไม่สามารถคาดการณ์อนาคตได้เพราะยังขาดงานวิจัยรองรับ อีกทั้งเผยว่าต้องการข้อมูลจากหลายหน่วยงาน อย่างในภาคเกษตรที่เกษตรกรอาจจะต้องบันทึกข้อมูลว่าในการเพาะปลูกนั้นได้เกิดปัญหาอะไรบ้าง เช่น มีแมลงรบกวนหรือผลผลิตตกต่ำหรือไม่ เป็นต้น

ที่มา: http://www.manager.co.th/
Link: http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9500000141999

No comments: