Thursday, April 19, 2007
เผาศพมีส่วนทำ 'โลกร้อน'
เผาศพมีส่วนทำ 'โลกร้อน' แนะใส่โลงกระดาษฝังใต้ต้นไม้
เอเอฟพี - นักวิทยาศาสตร์ออสเตรเลียออกมาเรียกร้อง ให้ยุติประเพณีเผาศพซึ่งมนุษย์ทำกันมาเป็นพันๆ ปี โดยให้เหตุผลว่าการปฏิบัติดังกล่าวมีส่วนทำให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้น
โรเจอร์ ชอร์ต (Roger Short) ศาสตราจารย์ด้านชีววิทยาสืบพันธุ์ แห่งมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น แนะนำว่า คนเราควรหันไปใช้วิธีซึ่งสามารถช่วยเหลือสิ่งแวดล้อมได้ภายหลังการเสียชีวิต เป็นต้นว่า การบรรจุศพไว้ในกล่องกระดาษแข็งแล้วนำไปฝังไว้ใต้ต้นไม้
เขาอธิบายว่า ด้วยวิธีนี้ ศพที่ค่อยๆ เน่าสลายไปจะกลายเป็นสารอาหารของต้นไม้ โดยที่ต้นไม้ก็ทำหน้าที่เปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ ให้กลายเป็นก๊าซออกซิเจนที่ชีวิตต้องการไปได้อีกหลายสิบปีทีเดียว
"เรื่องที่สำคัญคือ มันน่าละอายไหมที่จะเผาศพในช่วงเวลาที่คุณประสบกับภาวะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มสูงลิ่ว" ชอร์ตกล่าว "ทำไมถึงปล่อยให้มีคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นอีกจากความตายของคุณ"
ชอร์ตบอกว่า การเผาศพผู้ชายรูปร่างระดับเฉลี่ยในออสเตรเลียคนหนึ่ง โดยศพจะต้องถูกเผาในความร้อนระดับ 850 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 90 นาทีนั้น จะผลิตคาร์บอนไดออกไซด์ออกมามากกว่า 50 กิโลกรัมทีเดียว โดยนั่นยังไม่รวมเอาต้นทุนคาร์บอนที่มีอยู่ในเชื้อเพลิง หรือต้นทุนไอเสียที่จะถูกปล่อยออกมาระหว่างการผลิตและการเผาโลงที่ทำด้วยไม้
ศาสตราจารย์ออสซี่ผู้นี้กล่าวว่า อันที่จริงการผลิตก๊าซเรือนกระจกจากการเผาศพนั้นยังถือว่ามีปริมาณเล็กน้อย และเขาก็ไม่ปรารถนาที่จะห้ามปรามผู้คนไม่ให้เลือกปลงศพตามประเพณีทางศาสนาของตน
แต่ถ้าจะปลงศพแบบไม่ให้บาดหมางกับนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเลย เขาก็ขอแนะนำว่า มันไม่ใช่แนวความคิดที่เลวหรอกที่จะยกร่างกายของตนให้เป็นอาหารแก่ต้นไม้พงไพร
ที่มา: http://www.manager.co.th/
Link: http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9500000044604
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment