Saturday, April 14, 2007

กระดาษอิเล็กทรอนิกส์

ถึงเวลากระดาษอิเล็กทรอนิกส์ขอแจ้งเกิด

คุยฟุ้งมานานโขแล้วว่า “กระดาษอิเล็กทรอนิกส์” คืออนาคตของหนังสือพิมพ์และหนังสือ แต่จนแล้วจนรอดหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ยังคงคลานต้วมเตี้ยม ไม่แจ้งเกิดเสียที บริษัทลูกหม้อจากสถาบันเทคโนโลยีชื่อดังของสหรัฐอาสาพัฒนาจอภาพพับได้ทำฝันให้เป็นจริง

บริษัท อี อิงค์ จำกัด ซึ่งเป็นผลผลิตจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาซูเซตส์แห่งสหรัฐอเมริกา มองเห็นโอกาสทำตลาดจอภาพที่สามารถพับหรือม้วนได้เหมือนกับกระดาษหนังสือพิมพ์ หรือหนังสืออ่านทั่วไป ดังเห็นได้จากเวบไซต์หลายแห่ง ที่เปิดจำหน่ายหนังสือฉบับอิเล็กทรอนิกส์กันมากมาย

ปีที่แล้วมีบริษัทเก้ารายผลัดกันเปิดตัวเครื่องอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ จนบริษัทอี อิงค์ต้องเพิ่มยอดผลิตจออีบุ๊ค จากหนึ่งแสนจอเป็นหนึ่งล้านจอในเก้าเดือน

หนึ่งในนั้นคือบริษัทโซนี่ ที่เข็น "รีดเดอร์ แทบเล็ต" เป็นเครื่องจอขาวดำที่อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ได้แจ่มชัดกลางแสงแดดจ้าและในที่มืด มองได้เกือบทุกองศา ไม่ต่างกับกระดาษ เป็นจอภาพรุ่นใหม่ที่ไม่ได้ใช้ไฟส่องสว่างจากด้านหลังที่กินไฟเหมือนกับจอทีเอฟที ที่ใช้กันทั่วไปตอนนี้ สามารถพับม้วนจอได้มากขึ้น และกินไฟน้อยลง
ถึงกระนั้น กระดาษอิเล็กทรอนิกส์ยังมีข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น ยังเป็นแค่จอขาวดำ และเล่นไฟล์วิดีโอไม่ได้ ทั้งที่เป็นจุดขายสำคัญที่ใช้ยั่วน้ำลายผู้บริโภค
โมโตโรล่า เป็นอีกบริษัทหนึ่งที่นำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้กับ "โมโตโฟน" โทรศัพท์ราคาประหยัดสำหรับประเทศกำลังพัฒนา ส่วนไซโก้ เอปสัน จำกัด นำมาใช้ทำจอนาฬิกาข้อมือ หน่วยความจำ และอุปกรณ์อีกมากมาย
อี อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตกระดาษอิเล็กทรอนิกส์ป้อนบริษัทไอทีเหล่านี้ ยังมีผลงานที่จดสิทธิบัตรนับร้อยฉบับที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี "หมึกดิจิทัล" ซึ่งส่งประจุไฟฟ้าผ่านไปบนกระดาษอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้เกิดเป็นจุดขาวดำขนาดเล็กเคลื่อนที่ขึ้นลงทำให้เห็นเป็นตัวอักษรและภาพ
ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

No comments: