เส้นทาง “เด็กรักดาว” ผ่านเวที “ดาราศาสตร์โอลิมปิก”
"เหรียญทอง" อาจเป็นเป้าหมายของการแข่งขันในหลายๆ เวที ไม่ว่าจะเป็น "กีฬาโอลิมปิก" และแม้ "โอลิมปิกวิชาการ" ก็น่าจะมีเป้าหมายไม่ต่างกัน แต่สำหรับเด็กๆ กลุ่มหนึ่งกลับมองว่า “ดาราศาสตร์โอลิมปิก” ก็คือเวทีหนึ่งที่สร้างโอกาสให้พวกเขาได้ไปถึง “ดวงดาว” นั่นคือการเป็น “นักดาราศาสตร์”
กนกวรรณ ศักดิ์สกุลไกร หรือ “แพร” นักเรียน ม.5 โรงเรียนศึกษานารี กำลังอยู่ระหว่างลุ้นว่าจะผ่านการคัดเลือกเป็นตัวแทนศูนย์สมาคมดาราศาสตร์ไทย ซึ่งเป็นศูนย์ดาราศาสตร์โอลิมปิกระดับกรุงเทพมหานครของมูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการและพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษา ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (สอวน.) เพื่อไปแข่งดาราศาสตร์โอลิมปิกระดับประเทศที่จะจัดขึ้น ณ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในเดือน พ.ค.นี้หรือไม่ แต่ถึงไม่ได้ เธอก็ไม่เสียใจเพราะเป้าหมายที่แท้จริงของเธอคือการได้รับความรู้ดาราศาสตร์จากการเข้าค่ายดาราศาสตร์โอลิมปิก
“ความรู้ที่ได้จากการเข้าค่ายเป็นความรู้ในภาพกว้างของดาราศาสตร์” แพรซึ่งตั้งใจจะเป็นนักดาราศาสตร์ในอนาคตเผยถึงสิ่งที่ได้รับจากการเข้าค่าย ทั้งนี้ก่อนเข้าสู่สนามแข่งขันดาราศาสตร์โอลิมปิกเธอได้ผ่านการฝึกฝนความรู้ทางด้านดาราศาสตร์จากการทำวิจัยเรื่อง “ฝนดาวตก” และ “ดาวแปรแสง” (Variable star) ในโครงการเรียนรู้เรื่องวิทยาศาสตร์โลกและดาราศาสตร์ (ลีซา) ซึ่งเธอกล่าวว่าการทำวิจัยทำให้มีความเข้าใจลึกซึ้งในเรื่องที่ศึกษา
ด้าน พิสิฏฐ นิธิยานันท์ หรือ “หวาย” เยาวชนผู้คว้าเหรียญทองแดงจากการแข่งขันดาราศาสตร์โอลิมปิกระดับเอเชียแปซิฟิกและยังเป็นผู้ที่คว้าตำแหน่งแฟนพันธุ์แท้ “ดาราศาสตร์” จากการแข่งขันตอบปัญหาในรายการโทรทัศน์ ซึ่งความสำเร็จที่ได้รับมานั้นไม่ได้ทำให้เขาหยุดที่จะสานฝันสู่การเป็นนักดาราศาสตร์ โดยหลังจากเพิ่งจบชั้น ม.ปลาย จากโรงเรียนวัดสุทธิวราราม ในปีการศึกษา 2549 นี้ เขาก็ได้เลือกศึกษาต่อในภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งเขาให้เหตุผลว่าจะได้ใกล้ชิดกับสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.)
หวายกล่าวว่าวิชาดาราศาสตร์ยังไม่ถูกบรรจุให้เป็นวิชาหลักเหมือนวิชาอื่นๆ เช่น ฟิสิกส์ เคมี หรือชีววิทยา ครูหรือตำราก็ไม่พร้อม ค่ายดาราศาสตร์โอลิมปิกจึงช่วยเติมเต็มในส่วนนี้ได้ และโดยส่วนตัวเขาเองนั้นก็ผ่านการเข้าค่ายดาราศาสตร์โอลิมปิกตั้งแต่ ม.ต้น-ม.ปลาย ถึง 3 รุ่น ซึ่งก็ทำให้ได้รับความรู้พอสมควร
ส่วน วศิน สุทธิสันธิ์ หรือ “วิน” นักเรียน ม.ปลายที่กำลังจะจบจากโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย ได้ค้นพบว่าตัวเองชื่นชอบดาราศาสตร์และคิดว่าเป็นแนวทางที่จะเลือกเดินต่อไปในอนาคต โดยเขาได้ค้นคว้าข้อมูลดาราศาสตร์ด้วยตัวเองผ่านอินเทอร์เน็ต และมีโอกาสได้เข้าค่ายดาราศาสตร์โอลิมปิกด้วยคะแนนสอบแข่งขันเป็นอันดับ 1 แต่ที่สุดเขาก็ไม่ได้เป็นตัวแทนประเทศไปแข่งขันโอลิมปิกวิชาการระหว่างประเทศ และนั่นก็ไม่ได้ทำให้ย่อท้อเพราะจุดมุ่งหมายของเขาคือการได้เป็นนักดาราศาสตร์ ดังนั้นช่วงเวลาที่นักเรียนทั้งหลายจะลุ้นผลสอบเข้ามหาวิทยาลัยนั้น เขาก็ลุ้นผลสอบเข้าภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยเขาให้เหตุผลที่เลือกสถาบันดังกล่าวว่าเป็นสถาบันที่มีการสอนดาราศาสตร์อย่างจริงจังและอยู่ใกล้กับสถาบันวิจัยดาราศาสตร์ด้วย
ขณะที่ ทรงเกียรติ นุตาลัย หรือ “เอ” นักเรียนจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย กำลังจะไปศึกษาต่อทางด้านดาราศาสตร์จนถึงปริญญาเอกที่สหรัฐอเมริกาด้วยทุนกระทรวงวิทยาศาสตร์ ในสาขาฟิสิกส์ดาราศาสตร์ โดยเขาต้องสอบแข่งขันกับนักเรียนทั้งประเทศแม้ว่าเขาจะเป็นตัวแทนประเทศที่สามารถคว้าเหรียญทองแดงจากการแข่งขันดาราศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศเมื่อปี 2548 ซึ่งต่างไปจากตัวแทนโอลิมปิกวิชาการสาขาอื่นๆ ที่จะได้รับ “ทุนโอลิมปิกวิชาการ” ไปศึกต่อต่างประเทศโดยไม่ต้องสอบชิงทุน
เอกล่าวว่าตั้งใจจะไปเรียนที่สถาบันเทคโนโลยีแห่งแคลิฟอร์เนียหรือคาลเทค (California Institute of Technology: Caltech) เพราะอยู่ใกล้แหล่งวิจัยที่สำคัญ และมีกล้องดูดาวขนาดใหญ่แบบใช้แสงและแบบใช้คลื่นวิทยุ อยู่ใกล้ทะเลทรายซึ่งเหมาะแก่การศึกษาดาราศาสตร์เพราะไม่มีอะไรรบกวน รวมถึงมีผู้เชี่ยวชาญด้านดาราศาสตร์ที่มีชื่อเสียง แต่หากไม่ได้เรียนที่คาลเทคก็อาจจะไปเรียนที่มหาวิทยาลัยฮาวาย (University of Hawaii) ซึ่งมีกล้องดูดาวและมีงานวิจัยที่น่าสนใจเช่นกัน
“สนใจทางด้านนี้เพราะได้ศึกษาสิ่งใหม่ๆ ที่เราไม่เคยรู้ เป็นการศึกษาที่กว้างขวาง ไม่สิ้นสุด และเปลี่ยนแปลงได้ตลอด” เอกล่าวถึงความชอบที่มีต่อดาราศาสตร์ พร้อมทั้งเปิดเผยว่าอยากทำงานที่ สดร. เพราะเรียนทางด้านนี้หากได้ทำงานวิจัยร่วมกับสถาบันวิจัยดาราศาสตร์ก็นับว่าดีแล้ว และการได้แข่งขันดาราศาสตร์โอลิมปิกก็ทำให้ตัวเองได้ค้นพบว่าสนใจและถนัดในด้านนี้ แต่หากไม่ได้เข้าร่วมดาราศาสตร์โอลิมปิกก็อาจจะเบนเข็มอนาคตตัวเองไปที่วิศวกรรมศาสตร์ เพราะสนใจวิทยาศาสตร์ที่ต้องใช้การคำนวณ อีกทั้งก็ยังไม่ทราบด้วยว่าเรียนดาราศาสตร์แล้วจะไปทำอะไร แต่ตอนนี้ทราบแล้ว
“พอทราบว่ามี สดร.ก็ดีใจ เรียนทางด้านนี้หากได้ทำงานที่ สดร.ก็นับว่าดีแล้ว จบมาแล้วอยากเอาความรู้มาพัฒนาวงการดาราศาสตร์ในเมืองไทย เพราะไทยมีนักวิจัยสาขาอื่นพอสมควร แต่ด้านนี้ยังน้อยอยู่ อยากให้ไทยได้เข้าร่วมกับองค์กรดาราศาสตร์ระดับนานาชาติ และพัฒนาบุคลากรให้มีคุณภาพมากพอ” เอกล่าว
...เส้นทางสู่ “ดวงดาว” ของเยาวชนเหล่านี้อาจจะแตกต่างกันไปบ้าง แต่พวกเขาก็มีเป้าหมายรวมกันคือการเป็น นักดาราศาสตร์” ซึ่ง “โอลิมปิกวิชาการ” อาจจะเป็นเวทีช่วยให้พวกเขามองเห็นฝันของตัวเองได้ชัดเจนขึ้น ขณะที่เหรียญรางวัลก็คือผลพลอยได้ระหว่างการเดินทางเท่านั้นเอง...
ที่มา: http://www.manager.co.th/
Link: http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9500000038086
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment