Wednesday, February 13, 2008

เทคโนประดิษฐ์-หุ่นยนต์ปั่นจักรยานฝีมือเอไอทีช่วยเด็กหัดปั่น

ประเทศญี่ปุ่นมีหุ่นยนต์ปั่นจักรยานชื่อ"มูราตะบอย" ซึ่งได้รับการยกย่องเป็นสุดยอดหุ่นยนต์ และมาแสดงความสามารถให้คนไทยได้ชื่นชมทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเมื่อปีที่ผ่านมา มูราตะบอยมีความสูงเพียง 50 เซนติเมตร สามารถปั่นจักรยานได้โดยไม่ล้ม แม้กระทั่งเวลารถหยุดก็ยังทรงตัวอยู่ได้

ขณะที่บ้านเราก็มี"ไบซิโรโบ" หุ่นยนต์นักปั่น ฝีมือการพัฒนาจากรั้วเอไอที ที่ตั้งเป้าทำเป็นรถหัดขี่สำหรับเด็กทดแทนจักรยานสี่ล้อ และผู้ใหญ่ที่ขี่จักรยานไม่เป็น

รศ.ดร.มนูกิจพานิชกุล อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมเมคาทรอนิกส์ สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) กล่าวว่า ไบซิโรโบหรือจักรยานหุ่นยนต์เป็นผลงานวิจัยของนายบุยจุง ทัน นักศึกษาปริญญาเอกจากภาควิชาวิศวกรรมเมคาทรอนิกส์ ที่ใช้เวลาพัฒนามาแล้ว2 ปี แต่ยังไม่สมบูรณ์ ไบซิโรโบจะเป็นตัวช่วยให้ผู้ที่ขี่จักรยานไม่เป็น สามารถใช้งานพาหนะดังกล่าวได้เช่นเดียวกับสิงห์นักปั่น

ทีมวิจัยตั้งเป้าที่จะพัฒนาจักรยานหุ่นยนต์ให้วิ่งไปข้างหน้าและถอยหลัง โดยรักษาสมดุลไม่ให้เอียงหรือล้มลงด้วยตัวเอง แม้ว่าจะบรรทุกผู้โดยสารด้วยก็ตาม เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้ที่ขี่จักรยานไม่เป็น สามารถใช้เป็นพาหนะสำหรับการเดินทางระยะใกล้ รวมทั้งเด็กเล็กสามารถหัดขี่ได้ง่ายขึ้น รศ.ดร.มนูกิจ ในฐานะที่ปรึกษาโครงการวิจัย กล่าว

จักรยานหุ่นยนต์จะทำงานก็ต่อเมื่อเปิดสวิตช์ให้โฟร์วีลส์หรือลูกข่างที่มีลักษณะคล้ายฝากกระป๋องสีขนาดใหญ่หมุนทำงาน และอาศัยเซ็นเซอร์สำหรับทำหน้าที่ประมวลผลว่า ตอนนี้รถเอียงไปทางซ้ายหรือขวา และเอียงไปกี่องศาแล้ว สำหรับส่งข้อมูลไปยังสมองกล ซึ่งจะสั่งให้โฟร์วีลส์ปรับอยู่ในทิศทางที่สมดุล ทำให้จักรยานตั้งอยู่ได้โดยไม่ล้ม

ที่ปรึกษาโครงการวิจัยกล่าวอีกว่า การทดลองใช้เทคโนโลยีจักรยานหุ่นยนต์กับรถคันเล็กสำหรับเด็ก มีความง่ายกว่าคันใหญ่ เพราะโฟร์วีลส์ที่ขนาดเล็กพัฒนาได้ง่ายกว่าและไม่ซับซ้อน ส่วนจักรยานคันใหญ่ต้องพัฒนาโฟร์วีลส์ให้มีขนาดที่สมดุลกับตัวรถ ซึ่งต้องลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ขนาดที่สามารถรักษาสมดุล หรือตั้งตรงอยู่ได้ทั้งที่บรรทุกคนอยู่ด้วย

ไบซิโรโบเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับใช้เป็นต้นแบบการเรียนการสอนเกี่ยวกับระบบควบคุมสมดุลในหุ่นยนต์ หรืองานอะไรก็ได้ให้สามารถรักษาสมดุลได้ในตัวเอง อาจารย์ประจำภาควิชาเมคาทรอนิกส์กล่าว

นายบุยจุง ทัน กล่าวว่า ขณะนี้ไบซิโรโบวิ่งไปข้างหน้าและถอยหลังได้แล้วอาศัยพลังงานจากแบตเตอรี่ 12 โวลต์ 3 ลูก แต่ยังไม่สามารถรับน้ำหนักบรรทุกเกินกว่า 5 กิโลกรัม จึงต้องพัฒนาโฟร์วีลส์ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นและรอบการหมุนให้เร็วยิ่งขึ้น สำหรับรองรับน้ำหนักของผู้โดยสารที่มากกว่า 50 กิโลกรัมให้ได้ต่อไป

ที่มา: http://www.komchadluek.net/
Link: http://www.komchadluek.net/2008/02/13/x_it_h001_189735.php?news_id=189735

No comments: