Wednesday, October 15, 2008

โหด มัน ฮา ประสาสมองกล



ไม่รู้มันขำอะไรกันนักหนา เจ้าหุ่นยนต์ไอเชียร์ถึงระเบิดเสียงหัวเราะร่า แค่นั้นไม่พอประเคนมือทุบพื้นดัง "ปั๊กๆ" เล่นเอาคนยืนดูพลอยขำไปด้วย

หุ่นยนต์ไอเชียร์ (iCHEER ย่อมาจาก intelligent Companion Humanoid Entertainment and Education Robot) เป็นหุ่นตัวที่ 2 ที่สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต พัฒนาขึ้นตามหลังไอไทยสตาร์ (iThai Star) บนเรือนร่างหุ่นยนต์นำเข้าราคากว่าแสนบาทจากญี่ปุ่นมาพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ พูดง่ายๆ ทำให้มันมีสมองรู้จักคิดนั่นแหละ

นายฐิติพงศ์ นันทาภิวัฒน์ หัวหน้าสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต บอกว่า การพัฒนาหุ่นยนต์ของมหาวิทยาลัยรังสิตแตกต่างจากสถาบันอุดมศึกษาอื่น คือแทนที่จะเริ่มพัฒนากันตั้งแต่ระบบหุ่นยนต์ หลักสูตรไอซีทีของมหาวิทยาลัยรังสิตให้เน้นพัฒนาสมองกล และโปรแกรมการควบคุมหุ่นยนต์มากกว่า

“นักศึกษาในหลักสูตรไอซีทีต้องทำโครงงานจบการศึกษาที่แตกต่างจากที่อื่น ไม่ใช่แค่การทำระบบ ออกแบบเว็บไซต์ หรือสร้างการ์ตูนแอนิเมชั่น แต่ต้องพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ซับซ้อนจากวิชาพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ครอบคลุมด้านพัฒนาหุ่นยนต์ โทรศัพท์อัจฉริยะ หรืออุปกรณ์เครือข่ายไร้สายต่างๆ รองรับการขยายตัวของตลาดเกม ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ เทคโนโลยีมือถือ ตลอดจนเครือข่ายไร้สายและเทคโนโลยีหุ่นยนต์“ อาจารย์หนุ่มม.รังสิต กล่าว

ไอเชียร์ เป็นตัวอย่างหุ่นยนต์สมองกลที่นักศึกษาปี 4 หลักสูตรไอซีทีของม.รังสิตออกแบบคำสั่งให้เต้นเคลื่อนไหวร่างกายให้เข้าจังหวะเหมือนเชียร์ลีดเดอร์

“อีกไม่กี่เดือน ทีมเชียร์ลีดเดอร์ของมหาวิทยาลัยรังสิตจะมีสมาชิกใหม่คือ หุ่นยนต์ไอเชียร์สามารถเคลื่อนไหวร่างกายในท่าเชียร์ลีดเดอร์ต่างๆ ได้” อาจารย์นักพัฒนาหุ่นยนต์ของม.รังสิต ภูมิใจเสนอ

ฐิติพงศ์บอกว่า นักพัฒนาหุ่นยนต์ของม.รังสิตกำลังวิจัยความต้องการนำหุ่นยนต์ไปใช้งานในด้านต่างๆ เช่น เฝ้าบ้าน เนื่องจากหุ่นหลายชนิดติดตั้งกล้องที่สามารถดัดแปลงใช้สอดส่องดูหรือสามารถพัฒนาโปรแกรมให้หุ่นสามารถต่อเชื่อมสัญญาณโทรศัพท์มายังโทรศัพท์มือถือของเจ้าของบ้านเมื่อพบผู้บุกรุก

คอยจับตาดูผลงานของนักศึกษาปริญญาตรี ม.รังสิตเอาแล้วกัน

สาลินีย์ ทับพิลา

ที่มา: http://www.komchadluek.net/
Link: http://www.komchadluek.net/2008/10/15/x_it_h001_222034.php?news_id=222034

No comments: